หลังแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในกรุงเทพฯ คอนโดหรูหลายแห่งได้รับความเสียหาย อาคารสำนักงานหลายตึกร้าวจนเอียง มีทั้งบาดเจ็บและสูญเสีย รวมถึงตึกของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินที่ยังสร้างไม่เสร็จแต่กลับถล่มลงมาทั้งโครง ท่ามกลางความโกลาหลของเหล็กเส้น คอนกรีต และฝุ่นตลบ ยังมีหนึ่งตึกที่ยืนหยัดอยู่กลางเหตุการณ์ จนกลายเป็นไวรัลบนโลกออนไลน์ ซึ่งบนแผ่นป้ายขนาดใหญ่ตรงหน้าไซต์งาน มีชื่อของผู้รับเหมาก่อสร้างปรากฏชัด “ฤทธา”

ฤทธาคือใคร ?

ทำไมผู้คนถึงให้ความสนใจมากขนาดนี้ ?

Techsauce จะพาคุณไปรู้จักกับฤทธา บริษัทรับเหมาก่อสร้างที่อยู่เบื้องหลังคอนโดหรูของไทยหลายแห่ง และกำลังถูกพูดถึงมากที่สุดในเวลานี้

‘ฤทธา’ จากห้องแถวเล็กๆ ถึงบิ๊กเนมวงการก่อสร้างไทย

ถ้าย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน อาจไม่มีใครคาดคิดว่า “ฤทธา” จะกลายเป็นผู้รับเหมารายใหญ่ในภาคเอกชนของไทยที่แบกโปรเจกต์ระดับประเทศไว้บนบ่า บริษัทที่เริ่มต้นจากในตึกแถวแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ที่ไม่มีแม้กระทั่งหน้าต่าง และชั้นลอยเล็กๆ ถูกใช้เป็นพื้นที่ทำงานของทีมผู้ก่อตั้ง 5 คน

คุณสุวัฒน์ เชาว์ปรีชา, คุณอุทร ภูษิตกาญจนา, คุณกกมล โอภาสกิตติ, คุณอารักษ์ ศศิพงศ์ปรีชา และคุณขจรสิทธิ์ สิ่งห์สรรเสริญ

ซึ่งผู้ก่อทั้ง 5 เคยได้ร่วมงานกันในบริษัทก่อสร้างญี่ปุ่น สมัยสร้างอุโมงค์แห่งแรกของไทย หลังจบโปรเจกต์ใหญ่ในวันนั้น พวกเขาตัดสินใจเริ่มต้นใหม่ในชื่อ ฤทธา ซึ่งแปลว่า พลัง ในภาษาสันสกฤต พร้อมโลโก้เป็นหนุมาน ตัวแทนแห่งความกล้าหาญ ว่องไว และเชื่อมั่น

ทุนจดทะเบียนวันแรกคือ 1,000,000 บาท

สถานะคือ ผู้รับเหมาช่วงให้กับผู้รับเหมาหลักรายใหญ่

เป้าหมายคือ บริษัทที่ไว้ใจได้ทั้งในด้านคุณภาพและจริยธรรมทางธุรกิจ

บทพิสูจน์ของฤทธา กว่าจะก้าวมาเป็นตัวจริง

ในยุคเริ่มต้น ฤทธาได้ฝึกฝนงานก่อสร้างในนิคมอุตสาหกรรม ที่ต้องเข้มงวดเรื่องความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล พื้นที่ที่ความผิดพลาดคือศูนย์ และมาตรฐานความปลอดภัยต้องเทียบเท่าโรงงานต่างชาติ ทุกโครงการจึงกลายเป็นเวทีฝึกปรือทักษะระดับสูง ทีมงานฤทธาไม่ได้แค่สร้างให้เสร็จ แต่ต้องสร้างให้ “เป๊ะ” ทุกขั้นตอน

นี่เองคือจุดตั้งต้นของวัฒนธรรม “ปลอดภัยไว้ก่อน” ที่ฝังลึกอยู่ในดีเอ็นเอขององค์กร จนกลายเป็นมาตรฐานที่ไม่มีวันลดลงได้ และเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ลูกค้าหลายเจ้ากลับมาใช้บริการซ้ำแล้วซ้ำอีก

พอเข้าสู่ยุค 90s สนามแข่งขันเปลี่ยนไป ห้างโมเดิร์นเทรดต่างชาติเข้ามาปักธงในไทย พร้อมเป้าหมายเดียวคือ “ขยายให้เร็วที่สุด” และฤทธาคือผู้รับเหมาที่กระโจนเข้าไปคว้าโอกาสนี้อย่างเต็มสปีด จนในที่สุดก็ยึดตลาดได้กว่า 90% แบบที่เรียกได้ว่า ใครคิดจะสร้างเร็วต้องโทรหาฤทธาเท่านั้น

จนลูกค้าระดับโลกถึงกับมอบคำนี้ให้กับฤทธา “You make the impossible possible.” และนั่นก็กลายเป็นคำขวัญของบริษัทตั้งแต่นั้น

แล้ววันหนึ่ง… วิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 ก็มาเยือน เศรษฐกิจไทยถล่มทั้งระบบ บริษัทก่อสร้างมากมายปิดตัว หรือฟื้นตัวช้าจนหายไปจากวงการ แต่ฤทธาไม่เพียงแค่รอด แต่สามารถลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมเร่งสปีดเติบโตต่อ ในเวลา 15 ปี รายได้โตขึ้น 15 เท่า

จากผู้รับเหมาช่วง กลายเป็นเจ้าใหญ่ที่มีโปรเจกต์อยู่ทุกมุมเมือง จากโมเดิร์นเทรดขยายสู่ตลาดคอนโดหรูและโรงแรมสูงระฟ้าใจกลางเมือง พอเข้าสู่ยุค 2000 ฤทธาก็กลายเป็น “ตัวจริง” ในวงการรับเหมาก่อสร้าง ไม่ใช่แค่เพราะงานดีหรือเสร็จไว แต่เพราะคนในวงการรู้ว่า ถ้าอยากได้ไซต์งานสะอาด ปลอดภัย และเป็นระเบียบ ต้องเรียกฤทธา

ฤทธา จาก 1,000,000 สู่ 10,000,000,000 บาท

จากเริ่มต้นด้วยทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท...

วันนี้ “ฤทธา” คือชื่อที่รายใหญ่ไว้วางใจ และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังแลนด์มาร์กระดับประเทศมากมาย รายได้รวมในปี 2566 พุ่งทะลุ 11,283 ล้านบาท และเบื้องหลังตัวเลขเหล่านี้ คือผลงานระดับแลนด์มาร์กที่ฤทธาได้ฝากฝีมือไว้ในหลายโปรเจกต์ระดับประเทศ เช่น

ในโครงการระดับเมืองอย่าง ONE BANGKOK ฤทธาคือผู้อยู่เบื้องหลังการก่อสร้างพื้นที่สำคัญอย่าง Mitsukoshi Depachika Supermarket ซูเปอร์มาร์เก็ตสไตล์ญี่ปุ่นที่ถูกพูดถึงอย่างมากในช่วงเปิดตัว 

ไม่ไกลจากนั้น ฤทธายังมีบทบาทใน One Bangkok Show Suite พื้นที่ที่เป็นดั่งหน้าตาของโปรเจกต์มูลค่าล้านล้าน โชว์ดีไซน์สุดล้ำ 

ในโซนสุขุมวิทและอโศก ฤทธาเป็นผู้สร้าง The Lofts Asoke คอนโดหรูที่มีราคาเริ่มต้นที่ 8 ล้านบาท หรืออย่าง Saladaeng One ที่ตั้งอยู่บนทำเลซูเปอร์พรีเมียม มองเห็นสวนลุมฯ แบบเต็มตา เป็นอีกหนึ่งโครงการระดับไฮคลาสที่ฤทธารับหน้าที่ทำออกมาให้สมบูรณ์แบบ

ในวันที่ตึกหลายหลังเอียง เสาเหล็กหลายต้นหัก “ฤทธา” กลับกลายเป็นชื่อที่ถูกพูดถึงมากที่สุดบนโลกออนไลน์ ไม่ใช่เพราะการโฆษณา แต่เพราะผลงานที่พูดแทนตัวเอง นับเป็นหนึ่งในตัวอย่างธุรกิจที่ไม่ได้โตมาด้วยกลยุทธ์การตลาดซับซ้อน แต่เติบโตจากความเรียบง่ายที่หนักแน่น ลงมือทำให้ดี ทำให้ตรงเวลา และทำให้เป๊ะในทุกรายละเอียด วินัยที่ถูกสะสมและฝีมือที่ถูกขัดเกลาผ่านเวลาหลายสิบปีกลายเป็นต้นทุนและกลยุทธ์ที่ไม่มีใครลอกเลียนได้ 

อ้างอิง: ritta, datawarehouse