SCG ร่วมกับ โรงพยาบาลราชวิถี พัฒนาห้องไอซียูโมดูลาร์ สำหรับผู้ป่วยโควิด ใช้เวลาสร้างเพียง 7-10 วัน ช่วยแก้ปัญหาเตียงขาดแคลน

สถานการณ์ COVID-19 ของประเทศไทยถือว่าเข้าขั้นวิกฤต เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อกว่าหมื่นรายต่อวัน ส่งผลให้เตียงรักษาในสถานพยาบาลหลายแห่งไม่เพียงพอต่อจำนวนผู้ป่วย SCG จึงร่วมกับโรงพยาบาลราชวิถี ออกแบบ พัฒนา และผลิตห้องไอซียูโมดูลาร์ (MODULAR ICU) สำหรับผู้ป่วย COVID-19 โดยเฉพาะ จุดเด่นของห้องไอซียูโมดูลาร์ คือ ใช้เวลาสร้างน้อย แต่มีประสิทธิภาพเทียบเท่าห้องไอซียูในโรงพยาบาล

ห้อง ICU

คุณรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี กล่าวว่า “การผลิตห้องไอซียูโมดูลาร์จะช่วยเสริมปริมาณเตียงไอซียูใน กทม. ที่มีอยู่ประมาณ 400 เตียง ได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 เพื่อรองรับผู้ป่วยวิกฤตได้ทันท่วงที ซึ่งเป็นงานที่สำคัญและท้าทายอย่างยิ่งที่ต้องเร่งสร้างและติดตั้งโดยเร็วที่สุดด้วยระยะเวลาอันสั้น ซึ่งเป็นการทำงานแข่งกับเวลา เราทำในสิ่งที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ ให้เป็นไปได้ เพื่อปกป้องชีวิตผู้ป่วยวิกฤตโควิด และเพื่อความปลอดภัยสูงสุดของบุคลากรทางการแพทย์ทุกคน ด้วยการระดมสมอง วางแผนการทำงานอย่างรัดกุม โดยใช้ประสบการณ์ ความรู้ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี และการพัฒนานวัตกรรมป้องกันโควิดร่วมมือกับทีมบุคลากรทางการแพทย์ และโรงพยาบาลต่าง ๆ พัฒนาและออกแบบนวัตกรรมที่รวดเร็วและสามารถใช้งานได้ทันที” 

นวัตกรรมห้องไอซียูโมดูลาร์ มูลค่าโครงการ 45 ล้านบาท ซึ่งเอสซีจีให้การสนับสนุนรวมทั้งสิ้น 33 ล้านบาท ร่วมกับกรุงเทพมหานคร จึงเข้ามาตอบโจทย์ปัญหาเร่งด่วนของกรุงเทพฯ ได้เป็นอย่างดี 

สำหรับห้องไอซียูโมดูลาร์ 1 อาคาร จำนวน 10 เตียง ใช้เวลาสร้างเพียง 7-10 วัน ด้วยการออกแบบและการก่อสร้างชิ้นส่วนที่ผลิตจากโรงงานด้วยระบบ Modular ที่พร้อมประกอบหน้างาน แม้ห้องไอซียูโมดูลาร์จะใช้เวลาสร้างเพียงน้อยนิด แต่ประสิทธิภาพเทียบเท่าห้องไอซียูในโรงพยาบาล โดยสามารถควบคุมแรงดันอากาศได้ ทั้งระบบความดันบวก (Positive Pressure Room) เพื่อกำจัดเชื้อโรคและฝุ่น และระบบความดันลบ (Negative Pressure Room) เพื่อจำกัดการแพร่กระจายและลดเชื้อไวรัสออกสู่ภายนอกอาคาร พร้อมด้วยระบบกรองและกำจัดเชื้อโรคในอากาศที่กรองเชื้อโรคด้วย HEPA Filter และฆ่าเชื้อด้วยระบบ Bi-ionization Air Purifier และ UV Light แบบครบวงจร อีกทั้งยังมีอุปกรณ์ทางการแพทย์ครบครัน ได้แก่ เครื่องติดตามสัญญาณชีพจร เครื่องให้ออกซิเจน ระบบสื่อสาร

พื้นที่การใช้งานแบ่งเป็น 5 ส่วน ได้แก่

  1. ICU ZONE สำหรับเตียงผู้ป่วยพร้อมบอกตำแหน่งระบบยังชีพต่าง ๆ ที่เชื่อมกับระบบของโรงพยาบาล โดยระบบการจัดการอากาศในโซนนี้ใช้ระบบห้องความดันลบ 

  2. NURSING STATION ZONE สำหรับพยาบาลที่ดูแลผู้ป่วย โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ MONITOR ROOM สำหรับพยาบาลที่ดูแลเฝ้าระวัง และ STAND-BY ROOM สำหรับพยาบาลที่เตรียมสวมชุด PPE สำหรับเข้าไปดูแลผู้ป่วย ICU โดยการจัดการอากาศที่ใช้ในเป็นระบบห้องความดันบวก

  3. MEDICAL PREPARATION สำหรับจัดเก็บเครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ต่าง ๆ สำหรับผู้ป่วย

  4. ANTE ROOM ขาเข้าสำหรับควบคุมความดันก่อนเข้าสู่พื้นที่ ICU Zone

  5. ANTE ROOM ขาออกแบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่ พื้นที่ลำเลียงผู้ป่วยเข้าและออกจาก ICU พื้นที่สำหรับทิ้งขยะติดเชื้อต่าง ๆ และพื้นที่สำหรับถอดชุด PPE พร้อมทางเดินไปห้องน้ำเพื่อทำความสะอาดร่างกายเมื่อเสร็จสิ้นการปฏิบัติหน้าที่

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

CATL เปิดตัวแบตพลังงานคู่ วิ่งได้กว่า 1,500 กม. ต่อชาร์จ พร้อมแบตชาร์จเร็ว 5 นาที วิ่งได้ 520 กม.

CATL บริษัทผู้ผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของโลก ได้เปิดตัวเทคโนโลยีเซลล์แบตเตอรี่เวอร์ชันล่าสุดภายในงาน Tech Day ประจำปีที่จัดขึ้นในเซี่ยงไฮ้...

Responsive image

รู้จัก Embedded Financing กับโอกาสขยายบริการทางการเงินในธุรกิจ ผ่าน Webinar จาก Bettr ประเทศไทย

ห้ามพลาด! Free Webinar ครั้งแรกจาก Bettr ประเทศไทย เจาะลึก Embedded Financing พร้อมเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้และสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็ก (MSMEs) ด้วยเทคโนโลยีการเงินที่เข้าถึงง่าย...

Responsive image

เปิดตัว 'THAI Academy' โครงการอัปสกิล AI ให้ล้านคนไทยในปี 68 โดยรัฐบาล ไมโครซอฟท์ และ 35 พันธมิตร

รวมข้อมูลและความร่วมมือจัดทำ 'THAI Academy' โครงการยกระดับพันธกิจเสริมทักษะด้าน AI ให้ครอบคลุมคนไทย 1 ล้านคน และ 'AI Skills Navigator' แพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์ที่มีหลักสูตรด้าน ...