คู่มือเที่ยว Osaka-Kansai Expo 2025 แบบครบจบที่เดียว

ตารางเนื้อหา

1. วางแผนเข้าชมงาน

  • Osaka Expo 2025 คืออะไร
  • มีอะไรน่าดูที่ Osaka Expo 2025
  • การซื้อบัตร / ประเภทบัตร / การยืนยันตัวตนเข้างาน
  • แอปพลิเคชั่นสำหรับดูสถานที่ในงาน
  • การจองเวลาเข้าชมนิทรรศการ

2. วันเข้าชมงาน

  • การเดินทางไป Osaka Expo
  • การเข้างาน
  • การแบ่งพื้นที่ในงาน
  • Myaku-Myaku ตัวละครมาสคอตปริศนา
  • อาหาร-เครื่องดื่ม
  • ตารางเวลาประจำ
  • ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด

3. คนไม่ได้เดินทาง เข้าไปชมงานแบบ Virtual ได้

1. วางแผนเข้าชมงาน

1.1 Osaka Expo 2025 คืออะไร

งาน Osaka Expo 2925 เป็นงานมหกรรมนานาชาติ World Expo อันเป็นมหกรรมที่นำเอาคนและเทคโนโลยีทั่วโลกมารวมกับเพื่อพยายามแก้ปัญหาที่มนุษยชาติกำลังเผชิญในระดับโลก งานนี้จัดขึ้นทุก ๆ 5 ปี โดยครั้งแรกเกิดขึ้นที่กรุงลอนดอน จักรวรรดิอังกฤษในศตวรรษที่ 19 มีการจัดเรื่อยมา งานครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 35 ที่เกิดขึ้นบนโลกโดยเวียนมาที่ญี่ปุ่น หลังจากที่ครั้งที่แล้วถูกจัดขึ้นที่กรุงดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรต

ประเทศญี่ปุ่นเคยเป็นเจ้าภาพจัดงาน World Expo มาแล้วหลายครั้ง นับตั้งแต่ The Osaka Expo 1970 ซึ่งเป็นการเป็นเจ้าภาพครั้งแรกของญี่ปุ่นและทวีปเอเชีย งานครั้งนั้นกลายเป็นสัญลักษณ์ของการเติบโตทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นและกลายเป็นมหกรรมขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นในขณะนั้น ยี่สิบปีต่อมาก็เกิด Aichi Expo 2005 โดยครั้งนี้ที่ Osaka Expo 2025 แขวงคันไซอาสานำเอาสายตานานาชาติกลับสู่ญี่ปุ่น

สำหรับปีนี้ ธีมงานได้แก่ “Designing Future Society for Our Lives” หรือการออกแบบอนาคตเพื่อชีวิตของเรา โดยเป็นธีมใหญ่ครอบธีมเล็กสามธีมด้วยกัน ได้แก่ 

  1. Saving Life (รักษาชีวิต)
  2. Empowering Lives (เสริมพลังให้ชีวิต)
  3. Connecting Lives (เชื่อมต่อชีวิต) 

คอนเสปต์หลักของงานคือ People’s Living Lab - ห้องปฏิบัติการที่มีชีวิตของประชาชน เป็นห้องปฏิบัติการเพื่อค้นหาสังคมในอนาคต มีพื้นที่ให้คนกว่าแปดล้านคนจากทั่วโลกมาเที่ยวชมนิทรรศการและร่วมกันสร้างสังคมในอนาคต แม้กระทั่งก่อนที่งานมหกรรมนี้จะเกิดขึ้นก็มีกิจกรรมผ่านออนไลน์แพลตฟอร์มที่ชวนคนมาช่วยกันแชร์ความท้าทายและหาทางแก้จากทั่วโลก ห้องปฏิบัติการนี้นำเอาเทคโนโลยีล้ำสมัยมารวมเข้าไว้ด้วยกัน ระดมสร้างแนวคิดใหม่ ๆ และแบ่งปันกันเพื่อช่วยแก้ปัญหาที่มนุษยชาติกำลังเผชิญอยู่บนโลก 

งานเปิดให้เข้าชมรวม 184 วัน ตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน ถึง 13 ตุลาคม 2568 ที่เกาะเทียมยูเมะชิม่า เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น

1.2 มีอะไรน่าดูที่ Osaka Expo 2025

The Osaka Expo 2025 มีหัวใจสำคัญอยู่ที่การจัดแสดง pavilions หรือ ‘ซุ้ม’ จากภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งในประเทศญี่ปุ่น และจากประเทศต่าง ๆ กว่า 158 ประเทศ จัดแสดงนิทรรศการองค์ความรู้ เทคโนโลยี ตลอดจนวัฒนธรรมจากทั่วทุกมุมโลก 

สถาปัตยกรรมหลักของงานได้แก่ The Grand Ring ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมไม้ใหญ่ที่สุดในโลกแสดงถึงแนวคิดถึงความสมัครสมานท่ามกลางความแตกต่าง สร้างโดยการผสมผสานเทคนิกงานไม้แบบญี่ปุ่นและแบบโมเดิร์น เป็นทางเดินหลักของการชมงานครั้งนี้และสามารถชมวิวบนดาดฟ้าได้รอบทิศ

ในครั้งนี้ซุ้มจากทางเจ้าภาพมี 17 ซุ้มสุดอลังการจัดออกเป็นซุ้มหลัก Japan Pavilion, Women’s Pavilion ที่ร่วมจัดกับ Cartier, Osaka Healthcare Pavilion และ KANSAI PAVILION มีซุ้มจากภาคเอกชน 13 ซุ้ม เช่น ซุ้มจากพานาโซนิก, มิสซูบิชิ และ กันดั้ม เป็นต้น

ซุ้มตาม ธีมงานยังมีอีก 8 ซุ้มซึ่งออกแบบอย่างยิ่งใหญ่อลังการทั้งสถาปัตยกรรมและเนื้อหา ได้แก่ซุ้ม Better Co-Being ที่พูดถึงความสมัครสมานระหว่างมนุษยชาติและธรรมชาติ ซุ้ม Future of Life ทำนายรูปแบบที่เทคโนโลยีจะเข้ามาในชีวิตของมนุษย์ในอนาคต The Playground of Life: Jellyfish Pavilion แสดงงานสร้างสรรค์ผ่านนิทรรศการ Interaction ด้วยความสนุกสนาน ซุ้ม null² ผสามผสานศิลปะเข้ากับเทคโนโลยีเพื่อสะท้อนโลกดิจิทัล ซุ้ม DYNAMIC EQUILIBRIUM OF LIFE ให้บทเรียนปรัชญาชีวิตและสิ่งแวดล้อม ซุ้ม LIVE EARTH JOURNEY แสดงความงามของการเชื่อมต่อกับของสิ่งมีชีวิต ซุ้ม EARTH MART ชวนขบคิดเรื่องอาหารผ่านนวัตกรรมอาหารสไตล์ญี่ปุ่น และซุ้ม Dialogue Theater –sign of life– ชวนแชร์ประสบการณ์ทางอารมณ์ร่วมกันผ่านสตอรี่เทลลิ่ง

และที่สำคัญ มีซุ้มของประเทศต่าง ๆ กว่า 48 ซุ้มที่จัดแสดงความก้าวหน้า เทคโนโลยีและวัฒนธรรมของแต่ละประเทศ อัดแน่นทั้งนิทรรศการความรู้ เทคนิกการเล่าเรื่องผ่านสื่อผสม และการออกแบบสถาปัตยกรรมแบบไม่มีใครยอมใคร

อ่านไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดได้ทาง Osaka-Kansai Expo 2025 ส่อง 15 ไฮไลต์ห้ามพลาดในงาน 

1.3 การซื้อบัตร / ประเภทบัตร 

ประเภทของบัตร

แบ่งออกเป็นสำหรับเข้าชมครั้งเดียว สำหรับเข้าชมไม่จำกัดครั้งและบัตรแบบหมู่คณะ และมีเกณฑ์อายุแบ่งออกเป็นเด็กเล็กอายุ 0-3 ปีในวันที่ 1 เมษายน 2025 ไม่เสียค่าใช้จ่าย แล้วคิดราคาเป็นกลุ่มเด็กอายุ 4-12 ปี, กลุ่มผู้เยาว์อายุ 12-17 ปี, และผู้ใหญ่ที่อายุเกิน 18 ปีขึ้นไป

อย่างไรก็ดี สำหรับเด็กเล็กอายุ 0-3 ปีแม้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายก็ต้องกดบัตรเอาไว้เพื่อการันตีที่นั่งและการเข้าชมในพาวินเลียนต่าง ๆ บัตรผู้ใหญ่แบบทั่วไป 1 ใบสามารถขอบัตรเด็กเล็กได้จำกัด 3 ใบ, แบบเข้าไม่จำกัดครั้งสามารถขอบัตรเด็กเล็กได้ 9 ใบ และบัตรหน้าร้อนสามารถขอบัตรเด็กเล็กได้ 6 ใบ

สำหรับเข้าชมครั้งเดียว

บัตรแบบทั่วไป

  • เข้าเวลาใดก็ได้ในวันที่ใช้บัตร ซึ่งเป็นวันใดก็ได้ของสัปดาห์
  • ผู้ใหญ่ :  ¥7,500
  • ผู้เยาว์ : ¥4,200
  • เด็ก : ¥1,800

บัตรสำหรับ Weekdays

  • เข้าได้เฉพาะ Weekdays เท่านั้น
  • ผู้ใหญ่ : ¥6,000
  • ผู้เยาว์: ¥3,500
  • เด็ก: ¥1,500

บัตรกลางคืน

  • เข้าได้หลังเวลา 17:00 น. เป็นต้นไป
  • ผู้ใหญ่ : : ¥3,700
  • ผู้เยาว์: ¥2,000
  • เด็ก: ¥1,000

บัตรราคาพิเศษ

  • สำหรับผู้พิการและผู้มาด้วย
  • ผู้ใหญ่ : ¥3,700
  • ผู้เยาว์: ¥2,000
  • เด็ก: ¥1,000

สำหรับเข้าชมไม่จำกัดครั้ง

บัตรเข้าชมไม่จำกัดครั้ง

  • เข้าชมได้ไม่จำกัดตลอดการจัดงาน
  • ผู้ใหญ่ : ¥30,000
  • ผู้เยาว์: ¥17,000
  • เด็ก: ¥7,000

บัตรฤดูร้อน

  • เข้าได้ไม่จำกัดครั้งตั้งแต่ 19 กรกฎาคม ถึง 31 สิงหาคม 2025 
  • ผู้ใหญ่ : ¥12,000
  • ผู้เยาว์: ¥7,000
  • เด็ก: ¥3,000

โดยบัตรประเภทเข้าชมไม่จำกัดครั้งจะสามารถเข้างานได้ตั้งแต่เวลา 9.00 น.ด้วย (จากปกติเข้างานได้เวลา 10.00 น.)

บัตรแบบหมู่คณะ

บัตรแบบหมู่คณะทั่วไป (15 คนขึ้นไป)

  • ผู้ใหญ่ : ¥6,300
  • ผู้เยาว์: ¥3,500
  • เด็ก: ¥1,500

บัตรทัศนศึกษาสำหรับโรงเรียน (ครึ่งแรก: 13 เมษายน – 18 กรกฎาคม)

  • นักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย: ¥2,000
  • นักเรียนชั้นอนุบาลถึงมัธยมศึกษาตอนต้น: ¥1,000

บัตรทัศนศึกษาสำหรับโรงเรียน (ครึ่งหลัง: 19 กรกฎาคม – 13 ตุลาคม)

  • นักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย: ¥2,400
  • นักเรียนชั้นอนุบาลถึงมัธยมศึกษาตอนต้น: ¥1,000

วิธีการซื้อบัตรเพื่อเข้าชม Osaka World Expo 2025 สามารถทำได้ทั้งทางออนไลน์และที่หน้างานซึ่งสามารถซื้อได้ตั้งแต่เวลา 10.00 

อย่างไรก็ดีการซื้อบัตรออนไลน์จะทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการลงทะเบียน Expo ID หรือไปเสี่ยงกับการต่อคิว ตลอดจนกังวลว่าบัตรจะหมด และทำให้จัดการการเชื่อมต่อกับสารพัดแอปพลิเคชั่นที่จะใช้ในงานได้ดีกว่ามาก ซึ่งเข้าไปลงทะเบียนได้เลยทางนี้ (ticket.expo2025)

ขั้นตอนการซื้อบัตร

  1. เข้าเว็บไซต์ (ticket.expo2025) หรือดาวน์โหลดแอพลิเคชัน "EXPO 2025 Visitors" (มีทั้ง iPhone และ Android) เพื่อลงทะเบียนรับ Expo ID
  2. เมื่อลงทะเบียนเสร็จแล้วจะสามารถเลือกรูปแบบบัตรที่ต้องการซื้อ อย่าลืมเช็กระยะเวลาที่สามารถใช้บัตรได้ และจำนวนครั้งที่ต้องการเข้า 
  3. หากมีเด็กเล็กอายุ 0-3 ขวบไปด้วยต้องกดบัตรด้วยเหมือนกัน โดยจะไม่ถูกคิดราคา
  4. ชำระค่าบัตรเข้าชม
  5. จองวันและเวลาที่จะใช้บัตรเข้างานได้ 6 เดือนล่วงหน้า โดยต้องจองประตูที่จะเข้าด้วย สำหรับคนที่มาจาก the Osaka Metro Chuo Line จะใกล้กับประตูทางทิศตะวันออก ส่วนคนที่มาด้วย Shuttle Bus จะใกล้กับประตูทางทิศตะวันตก ไม่ต้องกังวลว่าจะจองเร็วเกินไปเพราะเปลี่ยนวันและเวลาที่จองได้ 3 ครั้ง
  6. คนที่ซื้อบัตรแบบไม่จำกัดการเข้าชม ต้องทำการสแกนใบหน้าก่อนวันเข้างานจริง โดยสามารถทำได้ผ่านแอปพลิเคชั่นและเว็บไซต์ บัตรทั้งสองประเภทสามารถสามารถของวันและเวลาเข้าชมได้ 3 ครั้ง และถ้าจะจองครั้งต่อไปต้องแคนเซิลครั้งก่อนหน้าจึงจะจองใหม่ได้

กิจกรรมล็อตเตอรี

ความกิมมิกของญี่ปุ่นคือบัตรเข้าชมแต่ละใบไม่ได้เป็นแค่บัตรเข้าชมธรรมดา แต่สามารถใช้ลงทะเบียนในระบบล็อตเตอรี ลุ้นได้สล็อตเวลาเข้าชม ซุ้มต่าง ๆ หรือกิจกรรมสุดฮิตฟรีด้วย สาเหตุก็เป็นเพราะว่าบางซุ้มเป็นที่จับตาจากผู้เข้าชมมาก ต้องจองคิวแต่เนิ่น ๆ หรือไปต่อคิวลุ้นหน้างาน (ดูวิธีจองคิวได้ด้านล่าง) ทำให้หากชนะรางวัลจากระบบล็อตเตอรี ก็จะตัดกังวลข้อนี้ไป  

ระบบล็อตเตอรี มีสองรูปแบบคือ 

  1. แบบลุ้นล่วงหน้า 2 เดือน ลงทะเบียนได้ก่อนถึงวันเข้าชมที่เราจองเข้าไป 2-3 เดือน
  2. แบบลุ้นล่วงหน้า 7 เดือน  ลงทะเบียนได้ก่อนถึงวันเข้าชมที่เราจองเข้าไป 8-30 วัน

ในการกดล็อตเตอรีแต่ละครั้ง ผู้เข้าชมสมารถเลือกซุ้มหรืออีเวนท์ที่อยากเข้าชมได้ 5 รายการเข้าไป และจะไม่สามารถเลือกระยะเวลาที่ต้องการที่ตรงกับรายการที่เคยชนะรางวัลไปแล้วได้ ถ้าถูกรางวัลจะมีข้อความเข้ามาในช่อง Message ของบัญชีของเราในเว็บไซต์หรือในแอพลิเคชั่น

1.4 แอปพลิเคชั่นสำหรับดูสถานที่ในงาน

เจ้าภาพออกแอปพลิเคชัน 4 ตัวสำหรับเที่ยวชมงานโดยเฉพาะ ได้แก่ the EXPO 2025 Visitors, EXPO2025 Personal Agent, EXPO2025 Digital Wallet และ EXPO Translation

ทั้งหมดดาวน์โหลดได้ทั้งทาง IOS และ Android 

the EXPO 2025 Visitors

แอปพลิเคชันหลักของงาน สามารถใช้ในการสำรวจค้นหาซุ้มร้านอาหารหรือพื้นที่จัดกิจกรรมที่ต้องการชม 

ก่อนเยี่ยมชมสามารถเข้าไปคัดกรองดูนิทรรศการที่สนใจ เช็กตารางกิจกรรม มีฟีเจอร์วางแผนเส้นทางการเยี่ยมชมตามความสนใจ ระหว่างงานยังสามารถใช้แอปพลิเคชันนี้นำทางผ่านฟีเจอร์แผนที่ หาห้องน้ำและบริการต่าง ๆ ตลอดจนติดตามข้อมูลสำคัญที่เกี่ยวกับการเข้าชมงาน

นอกจากฟีเจอร์ในการวางแผน แอปพลิเคชันนี้ยังมีจุดเด่นในการเข้าถึงข้อมูลอัพเดทล่าสุดที่เกี่ยวกับงาน ไม่ว่าจะเป็นข้อมุลล็อตเตอรี ข้อมูลการจองและการเข้าอีเวนท์ มีช่องทางการติดต่อกรณีมีปัญหาระหว่างเข้าชมงงาน และทิปส์ต่าง ๆ ที่จะทำให้การเข้าชมเป็นไปอย่างราบรื่น 

EXPO2025 Personal Agent

แอปพลิเคชั่นที่พัฒนาโดย NTT เป็นแอปพลิเคชันไกด์ที่ใช้ AI มาช่วยสร้างแผนการเข้าชมในแต่ละวันโดยออกแบบจากความสนใจของแต่ละคน โดยจะจัดแผนที่แนะนำ ซุ้ม, กิจกรรม, และจุดทานอาหาร มีการนำทางไปยังพื้นที่ที่จะไปต่อแบบเรียลไทม์ รวมถึงแผนที่ที่ระบุความแน่นอหนาของคน สถานะการจอง รายละเอียดบูธบริการ มีฟีเจอร์การนำทางแบบ AR และ waypoint options ระบบนำทางแบบหลบฝนกรณีฝนตก แนะนำร้านอาหารตามความหนาแน่นของคน  โดยจะมีระบบแจ้งเตือนหากเราได้จองการเข้าชมหรือกิจกรรมอะไรไว้ เหมาะสำหรับคนอ่านแผนที่ไม่เก่งและยังไม่มีแพลนเจาะจงว่าอยากดูอะไรเป็นพิเศษ 

นอกจากฟังก์ชันในการนำทาง แอปพลิเคชันนี้ยังนำเสนอ EXPO Quests ซึ่งเป็นเควสเก็บสแตมปืดิจิทัลที่ท้าให้ผู้ใช้งานเก็บสแตมป์ตามภารกิจและมีส่วนร่วมในการออกความเห็นเรื่องสังคมในอนาคตด AI ในแอปพลิเคชั่นนี้จะรวบรวมความคิดต่าง ๆ ประมวลออกมาเป็นผลงานศิลปะอีกด้วย 

ดาวน์โหลดได้ทั้งทาง IOS และ Android ชื่อ EXPO2025 Personal Agent

EXPO2025 Digital Wallet

เป็นแอปพลิเคชันสำหรับจ่ายเงินแบบ All-in-one ในงานที่ใช้ทั้งจ่ายเงินและใช้ในการเข้าร่วมกิจกรรมสะสมคะแนน เมื่อดาวน์โหลดมาแล้วจะสามารถเติมเงินผ่านบัตรเครดิตหรือบัญชีธนาคารได้ โดยจะได้โค้ดแบบ 2D และบัตรแบบ touch payment เพื่อมช้จ่ายทั้งในงาน Expo และร้านค้าที่ร่วมรายการในพื้นที่อื่น ๆ 

ในแอปพลิเคชันมีฟีเจอร์ 3 อย่าง 

  1. MYAKU-PE! ใช้จ่ายแบบ Cashless 
  2. MYAKU-PO! หรือฟีเจอร์ในการเก็บแต้ม ผ่านการเข้าร่วมโครงการ SDGs ภายในงาน 
  3. MYAKU-N! ฟีเจอร์ในการเก็บสะสมและสร้าง NFTs สุดพิเศษ

แอปพลิเคชันนี้ยังส่งเสริมการร่วมมือกันทางธุรกิจด้วยเนื่องจากผู้ใช้สามารถใช้ปฏิสัมพันธ์กับ ซุ้ม ต่าง ๆ และพาร์ทเนอร์ โดยใช้ Soul Bound Tokens (SBTs) เพื่อปลดล็อกสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม 

ภายในแอปพลิเคชันยังมี MYAKU-MYAKU Reward Programme ซึ่งเป็นโปรแกรมที่เราสามารถเก็บค่า exp ผ่านการร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ในงาน เมื่อมีเลเวลสูงขึ้นจะสามารถแลกรางวัลได้ เช่น การเข้าเล้าจ์ หรือการเข้าร่วมทัวร์พิเศษ

EXPO Translation

เป็นแอปพลิเคชันที่ผู้เข้าร่วมดาวน์โหลดเพื่อแปลภาษาระหว่างเข้าชมงานเมื่อต้องติดต่อเจ้าหน้าที่หรือผู้เข้าร่วมจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก มีให้เลือกกว่า 30 ภาษารวมถึงภาษาญี่ปุ่น

1.5 การจองเวลาเข้าชมนิทรรศการ

ซุ้ม หรือกิจกรรมฮอตฮิตจะมีคนต้องการเข้าชมสูงมากทำให้ต้องมีการจองเวลาเข้าไปก่อน โดยผู้เข้าชมสามารถจองเวลาผ่านระบบล็อตเตอรี หรือระบบจองทั่วไปที่เข้าไปจองก่อนได้รับสิทธิก่อน สามารถจองเวลาได้ก่อนเข้างานจริงนานถึงสามเดือน คนที่ไปเป็นครอบครัวหรือหมู่คณะสามารถจองร่วมกันได้ ทั้งนี้มีแค่นิทรรศการบางจุดเท่านั้นที่ต้องจองก่อนโดยเฉพาะนิทรรศการหลักที่เป็นที่นิยม นิทรรศการส่วนใหญ่สามารถเข้าชมแบบวอร์กอินได้เลย และหากไม่สามารถหาคิวล่วงหน้าได้บางครั้งอาจจะมีสล็อตเวลาที่ว่างหน้างาน สามารถเช็กได้ผ่านแอปพลิเคชันหรือที่จุดต่าง ๆ ภายในงาน

วิธีการจองเวลาเข้าชมนิทรรศการ 

  1. ศึกษาซุ้มที่อยากเข้าชมและตรวจดูว่าต้องจองคิวล่วงหน้าหรือไม่ 
  2. ลงทะเบียนลุ้นคิวผ่านระบบล็อตเตอรีตามที่อธิบายไว้ในส่วน การซื้อบัตร / ประเภทบัตร  และตรวจสอบผลลอตเตอรีผ่านแอปพลิเคชันและเว็บไซต์
  3. หากไม่ได้คิวเข้าชมจากระบบล็อตเตอรีก็สามารถ ลงทะเบียนแบบ First-Come, First-Served ได้ โดยจะจองคิวได้ 3 วันล่วงหน้าจนถึง 9.00 น. ของวันเข้าชม 
  4. หลังจากเข้างานแล้วยังสามารถจองคิวผ่านสมาร์ทโฟนหรือจุดต่าง ๆ ที่กำหนดไว้  
  5. สำหรับนิทรรศการที่ไม่ต้องจองล่วงหน้าสามารถเดินเข้าได้เลย
  6. สามารถจองคิวร่วมกันเป็นกลุ่มครอบครัวหรือคนที่ไปด้วยกันได้ในสล็อตเวลาเดียวกัน 

2. วันเข้าชมงาน

2.1 การเดินทางไป Osaka Expo

งานนี้สามารถเข้าถึงได้ทางระบบขนส่งสาธารณะ ทั้งรถไฟสายต่าง ๆ รวมถึงชินกันเซน ส่วนรถยนต์และรถจักรยานยนต์อาจไม่สะดวกเพราะไม่มีการจัดที่จอดรถไว้ มีเพียงที่จอดรถจักรยานเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้จอดในพื้นที่งานได้ 

1. รถไฟ

  • สายที่ใกล้ที่สุดได้แก่สาย Osaka Metro Chuo Line โดยลงที่สถานี Yumeshima ซึ่งจะติดกับทางเข้าฝั่งตะวันออกของงาน
  • คนที่มาจากสถานีชินกันเซน Shin-Osaka Station สามารถนั่งสาย JR Kyoto Line จาก Shin-Osaka Station ไป Osaka Station แล้วเปลี่ยนสายไป Osaka Loop Line แล้วไปเปลี่ยนสายอีกทีที่สถานี Bentencho เพื่อขึ้น Osaka Metro Chuo Line ไปยังปลายทางสถานี Yumeshima  
  • ถ้ามาจากสนามบิน ขึ้น JR Kansai Airport Line หรือ the Nankai Airport Line แล้วต่อมา Osaka Metro Chuo Line เพื่อไปยังปลายทางสถานี Yumeshima  

2. จักรยาน

จอดรถจักรยานได้ที่ทางเข้าฝั่งตะวันออกซึ่งต้องจองพื้นที่จอดล่วงหน้า นอกจากนี้ยงมีพื้นที่จอดจักรยานอีกจุดที่ Cosmosquare

3. ขึ้น Shuttle Buses 

  • จากสถานี JR Sakurajima เส้น Yumesaki Line สำหรับคนที่มาจาก Yumesaki Line หน้าสถานี JR Sakurajima จะมีรถ shuttle bus จอดอยู่ที่ Terminal 1 โดยต้องจองล่วงหน้าผ่าน KANSAI MaaSapp บริการนี้ยังเหมาะสำหรับผู้ใช้รถเข็นด้วย 
  • ยังมีรถ shuttle bus ให้บริการจากสถานีใหญ่อื่น ๆ ได้แก่ สถานี Shin-Osaka,  Osaka (North), Osaka (South), Nakanoshima, Sakurajima, JR/Hanshin Amagasaki, Nankai Namba, Uehommachi, Kintetsu Abenobashi, Sakai/Sakaihigashi ทั้งหมดต้องจองล่วงหน้าผ่าน ต้องจองล่วงหน้าผ่าน KANSAI MaaSapp และรถบัสจะจอดที่ Yumeshima Terminal ติดประตูฝั่งตะวันตกของงาน

4. Airport Bus

ขึ้นรถบัสของสนามบินได้จากสนามบิน Osaka Itami Airport และสนามบิน Kansai International Airport รถจะมาจอดที่ Yumeshima Terminal ติดประตูฝั่งตะวันตกของงาน

สามารถจองรถบัสชนิดนี้ได้ออนไลน์ transport.expo2025 แต่ต้องระวังเพราะภายในงานไม่อนุญาตให้ลากกระเป๋าใหญ่เข้าไปด้วย 

5. เรือ

ผู้เข้าชมที่มาด้วยเรือจากท่า Yumeshima North Coast Floating Pier ขึ้นรถบัสประจำท่าได้ฟรีโดยไม่ต้องจองล่วงหน้า 

6. รถส่วนตัว

มีจุดบริการที่จอดรถส่วนตัวที่ Maishima, Amagasaki และ Sakai โดยต้องนั่ง shuttle bus ที่มีประจำจุดจอดรถแต่ละจุดต่อ ต้องจองล่วงหน้าทั้งที่จอดรถและที่นั่งใน shuttle bus (parking-reserve.expo2025 )   

7. รถยนต์ส่วนบุคคลเฉพาะกรณีผู้พิการ

ต้องจองที่จอดรถล่วงหน้าวันเข้าชมงาน 1 วัน โดยที่จอดรถจะอยู่ติดกับทางเข้าฝั่งตะวันออกและเข้าได้ผ่านทางสะพาน Yumemai เมื่อข้ามมาแล้วให้เลี้ยวซ้ายผ่านโอเวอร์พาสแล้วเลี้ยวขวาที่ไฟแดงแรก 

2.2 การเข้างาน 

ผู้เข้าชมจะต้องใช้ QR Code ในทั้งขั้นตอนการเข้างานและการเข้าชม ซุ้ม และร่วมกิจกรรม แนะนำว่าควรเช็กให้ดีว่าได้รับ QR code แล้วและมีแบ็กอัพไว้ในโทรศัพท์มือถือด้วยวิธีแคปหน้าจอหรือปรินท์ออกมาเผื่อกรณีไม่สามารถดาวน์โหลดได้ 

เมื่อถึงวันเข้างานผู้เยี่ยมชมต้องเข้าตามประตูที่จองไว้ ซึ่งสามารถเช็กได้ที่ส่วน My Ticket ในแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ ซึ่งสามารถเปลี่ยนประตูที่เข้าได้หากมีกรณีจำเป็น แต่อาจจะเกิดกรณีที่เวลาในการเข้าชมที่ค้องการเข้าในประตูนั้นเต็ม ต้องรอจนกว่าจะว่าง การจองและเข้าให้ตรงกับประตูที่จองตามเวลาที่กำหนดจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด  

2.3 การแบ่งพื้นที่ในงาน

งานจะแบ่งออกเป็น 3 พื้นที่ คือ 

  1. Pavilion World
  2. Water World
  3. Green World

Pavilion World เป็นหัวใจของงาน จะมี ซุ้ม ต่าง ๆ และบูธอำนวยความสะดวก รวมถึงทางเข้าชม The Grand Ring ที่ขึ้นไปดูดาดฟ้าของสถาปัตยกรรมวงแหวนได้ 

Water World จะเน้นทัศนียภาพน้ำเพื่อความผ่อนคลายและเป็นพื้นที่จัดกิจกรรมต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีอาหารเรียงรายริมย้ำและมีเวทีสำหรับการแสดง 

Green World เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ที่เปิดโล่งเพื่อประโยชน์ใช้สอยทางตะวันตกที่มีคนจำนวนมาก เช่น เป็นลานจัดกิจกรรมภายนอก และเป็นที่เข้าถึงระบบขนส่ง

นอกจากพื้นที่สามแห่งนี้แล้ว ยังมีโซนอื่น ๆ ตามธีม เช่น Connecting Lives Zone, Empowering Lives Zone และ Saving Lives Zone มีโซนสวนป่าเพื่อความผ่อนคลาย, Future of Life Zone สำหรับผู้สนใจด้านเทคโนโลยี, Plaza โดยทั้งหมดจะโอบล้อมด้วยสถาปัตยกรรมไม้ขนาดใหญ่ The Grand Ring ที่เป็นที่ตั้งของ ซุ้ม อีกหลากหลายเนื้อหา

สายช็อปปิ้วก็สามารถเพลิดเพลินได้ด้วยพื้นที่ช็อปปิ้งทั้งร้านค้าออฟฟิเชียลของ EXPO2025 หรือตามร้านค้าของนิทรรศการต่าง ๆ ที่เอาของมาตามธีมของแต่ละหน่วย นอกจากนี้ยังมีตลาดใกล้ประตูทางเข้าทั้งฝั่งตะวันออกและตะวันตกให้จับจ่ายซื้อของฝาก 

สำหรับเหตุฉุกเฉินกรณีป่วยหรือได้รับบาดเจ็บ มีสถานีพยาบาลและจุดปฐมพยาบาลกระจายตามจุดต่าง ๆ ผู้พิการยังสามารถขอรับ Facility ต่าง ๆ เช่น อุปกรณ์หรือผู้ช่วยในการสื่อสารหรือวีลแชร์ รวมถึงอุปกรณ์ช่วยพยุงได้อีกด้วย

สำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็ก มีศูนย์ดูแลเด็กเล็กและจุดรับรายงานเด็กหายให้บริการดูแลเด็ก ให้ริสแบนด์เด็กหาย ห้องน้ำเด็ก จุดเปลี่ยนผ้าอ้อม และห้องให้นมบุตร 

นอกจากนี้ยังมีห้องละหมาดและห้องเงียบให้บริการกระจายตามจุดต่าง ๆ ทั่วทั้งงาน

2.4 Myaku-Myaku ตัวละครมาสคอตปริศนา

ตัวละครมาสคอตประจำงานชื่อ Myaku-Myaku เป็นตัวละครปริศนา มีแหล่งกำเนิดจากแหล่งน้ำพุธรรมชาติเล็กๆในแถบคันไซ ที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างเซลล์สิ่งมีชีวิตและน้ำ สีแดงในตัวแทนเซลล์ที่แตกตัวและเพิ่มตัวเองได้ ส่วนสีฟ้าแทนน้ำบริสุทธิ์ที่ไหลเลื่อนได้ 

ที่จริงแล้ว Myaku-Myaku เปลี่ยนแปรรูปร่างต่าง ๆ ได้ โดยรูปที่เราเห็นเป็นรูปที่เลียนแบบร่างกายมนุษย์ เบื้องต้นเป็นคนเฟรนลี่ติ๊งต๊อง มีทักษะพิเศษในการเปลี่ยนรูปร่างและหาแหล่งน้ำบริสุทธิ์หลังฝน

2.5 อาหาร-เครื่องดื่ม

ภายในงานมีอาหารที่หลากหลายและสอดคล้องกับธีมด้านความหลากหลายทางวัฒนธรรม นวัตกรรม และความยั่งยืน นอกจากอาหารญี่ปุ่นยังมีร้านอาหารจากทั่วทุกมุมโลก เช่น อาหารเกาหลี เวียดนาม อาหารฮาลาล รวมถึงตัวเลือกอาหารวีแกน เป็นต้น มาเปิดให้บริการ 

นอกจากนี้ยังมีอาหารที่ชูจุดเด่นด้านต่าง ๆ เช่น The Sustainable Food Court Osaka Noren Meguri จะให้บริการอาหารพื้นเมืองโอซาก้าที่มาจากความยั่งยืน บริเวณ EARTHTABLE จะให้บริการอาหารเพื่ออนาคต เช่น ราเมนไร้กลูเตน หรืออาหารแช่แข็งแบบไฮเทค ยังมีร้านอาหารล้ำๆ ต่าง ๆ เช่น Aquaculture Restaurant จากมหาวิทยาลัยคินได และ Kura Sushi จะเสิร์ฟอาหารที่ผสมผสานระหว่างรสชาติแบบดั้งเดิมกับเทคโนโลยีอาหารสุดล้ำFUJIYA JAPAN SHORTCAKE LAB ให้บริการของหวานในธีมอนาคต Kyo-tanba เสิร์ฟเกาลัดและ เป็นต้น ในบริเวณ Futuristic Challenge Shops zone จะมีคาเฟ่ในธีทความยั่งยืนแบบ SDGs มีพื้นที่ Interactive อย่าง Lapoppo Farm ที่จะผสาน farm-to-table dining ด้วยระบบการผลิตอาหารด้วยนวัตกรรม 

สำหรับคนที่อยากหาอะไรทานง่ายๆ เบาใจได้ เพราะมีร้านสะดวกซื้อกระจายตามจุดต่าง ๆ ในงาน

2.6 กิจกรรม และไฮไลท์

กิจกรรมหลักของงานที่จัดแสดงทุกวันได้แก่ การแสดงโชว์ “One World, One Planet” ซึ่งเป็นการแสดงแสงสีเสียงแบบอิมเมอร์ซีฟประกอบโชวฺโดรน และการแสดง “Under the Midnight Rainbow” ซึ่งเป็นการแสดงน้ำพุประกอบแสงสีและดนตรี จัดขึ้นที่ Water Plaza 

ไฮไลท์รองลงมาได้แก่ Physical Twin Symphony งานดนตรีในธีมโลกอนาคต และ Experimental Sauna Ritual ที่ผสมผสานวัฒนธรรมเข้ากับนวัตกรรม Wellness 

รอบๆ งานยังมีโปรแกรมแสดงศิลปะสาธารณะใน 21 จุดกระจายไปยังที่ต่าง ๆ จัดแสดงผลงานของศิลปินนานาชาติ และยังสามารถเข้าร่วมกิจกรรมวันชาติของแต่ละประเทศที่เกิดขึ้นเกือบทุกวันตลอดระยะเวลาที่เปิดให้เข้าชมที่ซุ้มของแต่ละประเทศ ซึ่งจะได้เห็นการแสดงวัฒนธรรมหรือพิธีต่าง ๆ 

3.หลังจากเข้าชมงาน

  • 3.1 สถานที่เที่ยวอื่น ๆ ในบริเวณใกล้เคียง
  • 3.2 เข้าไปดูแบบ virtual ได้

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

CATL เปิดตัวแบตพลังงานคู่ วิ่งได้กว่า 1,500 กม. ต่อชาร์จ พร้อมแบตชาร์จเร็ว 5 นาที วิ่งได้ 520 กม.

CATL บริษัทผู้ผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของโลก ได้เปิดตัวเทคโนโลยีเซลล์แบตเตอรี่เวอร์ชันล่าสุดภายในงาน Tech Day ประจำปีที่จัดขึ้นในเซี่ยงไฮ้...

Responsive image

รู้จัก Embedded Financing กับโอกาสขยายบริการทางการเงินในธุรกิจ ผ่าน Webinar จาก Bettr ประเทศไทย

ห้ามพลาด! Free Webinar ครั้งแรกจาก Bettr ประเทศไทย เจาะลึก Embedded Financing พร้อมเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้และสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็ก (MSMEs) ด้วยเทคโนโลยีการเงินที่เข้าถึงง่าย...

Responsive image

เปิดตัว 'THAI Academy' โครงการอัปสกิล AI ให้ล้านคนไทยในปี 68 โดยรัฐบาล ไมโครซอฟท์ และ 35 พันธมิตร

รวมข้อมูลและความร่วมมือจัดทำ 'THAI Academy' โครงการยกระดับพันธกิจเสริมทักษะด้าน AI ให้ครอบคลุมคนไทย 1 ล้านคน และ 'AI Skills Navigator' แพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์ที่มีหลักสูตรด้าน ...