14 แบงก์ไทยร่วม Thailand Blockchain Community Initiative นำ Blockchain ยกระดับธุรกิจของประเทศ

14 ธนาคารในไทย จับมือรัฐวิสาหกิจและองค์กรธุรกิจใหญ่ 7 แห่ง เดินหน้า Thailand  Blockchain Community Initiative เพื่อนำเทคโนโลยี Blockchain มายกระดับประสิทธิภาพและความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจของประเทศ โดยเริ่มต้นด้วยโครงการบริการหนังสือค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์บนระบบ Blockchain สร้างโครงข่ายหนังสือค้ำประกันที่สะดวกปลอดภัยบน Blockchain เป็นครั้งแรกของไทย นำระบบหนังสือค้ำประกันวงเงิน 1.35 ล้านล้านบาท สู่ยุคเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ 100% ลดค่าใช้จ่ายได้ถึง เท่า คาดเริ่มใช้ไตรมาส ปีนี้ ปัจจุบันโครงการดังกล่าวอยู่ในระหว่างทดสอบภายใต้การกำกับของธนาคารแห่งประเทศไทย (Regulatory Sandbox) เพื่อช่วยให้พัฒนาบริการใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นเป็นไปอย่างมีมาตรฐานและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ใช้บริการและภาคเศรษฐกิจของประเทศ

ดร. วิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ธปท. ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เห็นความร่วมมือในการสร้างชุมชน Blockchain นี้ขึ้น ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อภาพรวมของเศรษฐกิจไทย ทั้งในภาคธนาคารที่เข้าร่วมโครงการและภาคธุรกิจ โดยการใช้เทคโนโลยีศักยภาพสูงอย่าง Blockchain ที่สามารถเปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกรรมทางการเงินในหลายมิติ และปัจจุบันมีการนำมาใช้ในหลากหลายด้าน อีกทั้งโครงการนี้ก็อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทยด้วยกลไก Regulatory Sandbox เพื่อทดสอบนวัตกรรมที่มีการใช้เทคโนโลยีใหม่ จากความร่วมมือในการสร้างชุมชน Blockchain นี้ภาคธนาคารจะสามารถใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยี Blockchain ร่วมกัน โดยไม่ต้องลงทุนพัฒนาเทคโนโลยีเองทั้งหมด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนในการให้บริการ สำหรับภาคธุรกิจจะช่วยลดความซ้ำซ้อนในการเชื่อมต่อบริการเดียวกันที่มีกับต่างธนาคาร สามารถตรวจสอบข้อมูลในระบบเครือข่ายที่ใช้งานร่วมกัน ลดความเสี่ยงการปลอมแปลงข้อมูล เพิ่มความรวดเร็วและความปลอดภัยในการใช้งาน นับเป็นปรากฎการณ์อันดียิ่งในการส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมทางการเงิน พร้อมทั้งเป็นการเพิ่มศักยภาพ และยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศให้สูงขึ้น

คุณปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า ในปี 2560 ตัวเลขประมาณการของประเทศไทยที่ออกหนังสือค้ำประกันผ่านระบบธนาคารพาณิชย์มูลค่ารวมกว่า 1.35 ล้านล้านบาท คิดเป็นจำนวนมากกว่า 500,000 ฉบับ ขยายตัวจากปีที่ 2559 8% ในจำนวนนี้เป็นการออกเอกสารผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ประมาณ 15-20% ดังนั้นโดยภาพรวมระบบเศรษฐกิจไทยยังคงพึ่งพาการออกหนังสือค้ำประกันในรูปแบบเอกสารที่เป็นกระดาษอยู่เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นต้นทุนค่าใช้จ่ายและภาระในการจัดการด้านเอกสาร ทั้งสำหรับธนาคารผู้ออก และภาคธุรกิจผู้ใช้งานหนังสือค้ำประกัน

Thailand Blockchain Community Initiative ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อนำเทคโนโลยีขั้นสูงอย่าง Blockchain มายกระดับภาคธุรกิจไทย ประกอบด้วยความร่วมมือของธนาคาร 14 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารเกียรตินาคิน ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ธนาคารทหารไทย ธนาคารทิสโก้ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารธนชาต ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารยูโอบี ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด(ไทย) และธนาคารออมสิน และธุรกิจขนาดใหญ่ 7 แห่ง ได้แก่ การไฟฟ้านครหลวง  การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย บมจ. พีทีที โกลบอล เคมิคอล บจก. พีทีที โพลีเมอร์ มาร์เก็ตติ้ง บมจ. ไออาร์พีซี และ เครือปูนซิเมนต์ไทย โดยมีบริษัทผู้เชี่ยวชาญที่ช่วยสนับสนุนด้านเทคโนโลยี ให้คำปรึกษาด้านการจัดการภาพรวมของโครงการ รวมถึงด้านกฎหมาย จำนวน 4บริษัท ได้แก่ แอคเซนเจอร์เบเคอร์ แอนด์ แม็คเค็นซี่ ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) และไอบีเอ็ม นับเป็นรูปแบบความร่วมมือที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย

โครงการบริการหนังสือค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์บนระบบ Blockchain ป็นโครงการแรกภายใต้ Thailand Blockchain Community Initiative ที่ใช้โครงข่ายเทคโนโลยี Blockchain เพื่อรับรองเอกสารหนังสือค้ำประกันที่มีประสิทธิภาพสูง เชื่อถือได้ ปลอดภัย และมีมาตรฐานรูปแบบข้อมูลที่เป็นเอกภาพ นอกจากนี้ ยังเป็นการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน ผ่านระบบ Cloud Technology จึงช่วยให้ผู้ใช้งานมีความคล่องตัวสูง เพราะสามารถกำหนดการตั้งค่าใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น รองรับการทำธุรกรรมและตรวจสอบสถานะได้ตลอด 24 ชั่วโมง

คุณปรีดี กล่าวตอนท้ายว่า โครงการบริการหนังสือค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์บนระบบ Blockchain นี้ เป็นจุดเริ่มต้นที่จะนำไปสู่การใช้เอกสารที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ 100%  ตลอดกระบวนการตั้งแต่เริ่มจนจบโดยไม่ใช้กระดาษ ซึ่งมีความปลอดภัยสูง ตรวจสอบได้ง่าย ปลอมแปลงได้ยาก สะดวกรวดเร็วกว่ารูปแบบเดิม ซึ่งสามารถเข้าตรวจสอบได้ ทุกที่ ทุกเวลา และจะบันทึกประวัติต่อเป็นห่วงโซ่แบบอัตโนมัติทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลง เอื้อให้เกิดการเชื่อมต่อไปยังเครือข่ายธนาคารและภาคธุรกิจต่างๆ เพิ่มขึ้นได้ในอนาคต

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

CATL เปิดตัวแบตพลังงานคู่ วิ่งได้กว่า 1,500 กม. ต่อชาร์จ พร้อมแบตชาร์จเร็ว 5 นาที วิ่งได้ 520 กม.

CATL บริษัทผู้ผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของโลก ได้เปิดตัวเทคโนโลยีเซลล์แบตเตอรี่เวอร์ชันล่าสุดภายในงาน Tech Day ประจำปีที่จัดขึ้นในเซี่ยงไฮ้...

Responsive image

รู้จัก Embedded Financing กับโอกาสขยายบริการทางการเงินในธุรกิจ ผ่าน Webinar จาก Bettr ประเทศไทย

ห้ามพลาด! Free Webinar ครั้งแรกจาก Bettr ประเทศไทย เจาะลึก Embedded Financing พร้อมเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้และสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็ก (MSMEs) ด้วยเทคโนโลยีการเงินที่เข้าถึงง่าย...

Responsive image

เปิดตัว 'THAI Academy' โครงการอัปสกิล AI ให้ล้านคนไทยในปี 68 โดยรัฐบาล ไมโครซอฟท์ และ 35 พันธมิตร

รวมข้อมูลและความร่วมมือจัดทำ 'THAI Academy' โครงการยกระดับพันธกิจเสริมทักษะด้าน AI ให้ครอบคลุมคนไทย 1 ล้านคน และ 'AI Skills Navigator' แพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์ที่มีหลักสูตรด้าน ...