ความผิดพลาดของเหล่า Startup ที่มักคาดเดาธุรกิจแค่เพียงเปลือกนอก (เราควรทำอย่างไรดี ?)

คำกล่าวของ Paul Graham กล่าวว่า คำว่า “Startup = Growth” คำนี้ย่อมเป็นของคู่กัน

Startup ที่วาดฝันว่าจะเติบโตอย่างรวดเร็วนั้นคุณควรมองการเติบโตทั้งองค์กรไม่ใช่เพียงตัวคุณเองอย่างเดียว สิ่งที่จำเป็นของ Startup คุณต้องไม่คิดเพียงแค่พรุ่งนี้เราจะโตอย่างไรแต่มันยังมีเหตุผลอีกหลายอย่างที่เป็นส่วนประกอบที่ทำให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างแข็งแรงไม่ว่าจะเป็นความรู้ด้านเทคโนโลยี,การหาเงินลงทุน,บริษัทร่วมทุนหรือแม้กระทั้งการออกจากธุรกิจเมื่อเกิดปัญหา

อีกเหตุผลสำคัญอย่างหนึ่งในการคิดผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เราต้องใส่ใจ

  • Startup ต้องเริ่มจาก 0 นั้นก็หมายความว่าคุณยังไม่มีอะไรเลยซักอย่างที่เรียกได้ว่าเป็นการเติบโต
  • หากคุณมีแค่ไอเดียและยังคาดหวังในการหาเงินลงทุนเพื่อช่วยในการเริ่มธุรกิจแล้วละก็ ควรหาข้อมูล Vc/Angle ที่จะมาช่วยสานฝันของคุณให้เป็นจริงได้

การคาดการณ์การเติบโตของบริษัทเป็นสิ่งที่ควรทำ เพื่อทำให้มองเห็นทิศทางต่อไปที่เราควรเดินแต่การคาดการณ์โดยที่เราเข้าข้างตัวเองเกินไปนั้นอาจจะเป็นมหันตภัยร้ายสำหรับธุรกิจของคุณเองก็ได้ค่ะ ดังนั้นการคาดการณ์ที่ผิดพลาดมากที่สุดคือ : - หากคุณมองแต่ตัวเลขของยอดผู้ใช้งานแต่ไม่ได้ดูองค์ประกอบอื่นๆอาจทำให้คุณเข้าใจผิดเลยก็ได้ว่าธุรกิจกำลังเป็นไปได้ดีถ้าเปรียบเทียบกันแล้วคงเหมือนกุหลาบที่มีหนาม ถึงข้างนอกจะดูสวยงามแต่หากเราไม่ระมัดระวังกับสิ่งที่สวยงามนี้อาจทำให้เราเจ็บตัวได้

ในความเป็นจริงแล้วการที่คุณทำการตลาดออนไลน์เป็นสิ่งที่ Startup ทุกคนพยายามทำแต่ในที่สุดเมื่อคุณพบว่ามันไม่เป็นไปตามที่วางไว้คุณเลยเลือกที่จะเปลี่ยนทางเลือกไปทำอย่างอื่นนั้นคือการแก้ปัญหาแบบผิดจุดเพราะคุณสนใจเพียงว่าผลลัพธ์ (output) ที่ออกมาจะเป็นอย่างไร ซึ่งแท้ที่จริงแล้วการเพิ่มการเติบโตในแต่ละเดือน อัตราร้อยละต่างๆในข้อมูลจะซ่อนด้วยรายละเอียดที่คุณต้องใส่ใจ ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนของเครื่องจักรในการรองรับการเติบโตนั้นก็คือปัจจัยของการผลิตต่างๆ (Input) ที่คุณเตรียมไว้เพียงพอกับสถานการณ์เหล่านี้แล้วหรือยัง หากคุณจัดการรายละเอียดเหล่านี้แบบละเอียดถี่ถ้วนแล้ว Output ที่ออกมาย่อมมีคุณภาพ

การคาดการณ์ต่างๆ ควรมุ่งเน้นปัจจัยการผลิต(Input)ไม่ใช่ผลลัพธ์(Output)

คาดการณ์อนาคตของธุรกิจ

โมเดลที่จะประสบความสำเร็จได้คือการวางรากฐานที่แตกต่าง:

  • ใช้ตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ของคุณโดยตรง ไม่ใช่การหยิบเครื่องมือที่เป็นที่นิยมแต่กลับไม่เกี่ยวข้องอะไรกับธุรกิจของคุณเลย
  • เริ่มพยากรณ์จาก Input ที่คุณมี
  • ถ้าคุณเริ่มจาก Input แล้วจะทำให้คุณเห็นขั้นตอนที่จะเกิดขึ้นในส่วนถัดไปเอง
  • Input ของคุณทำให้คุณคาดการณ์หรือปรับปรุง Output ของคุณได้ตลอดเวลาที่ต้องการ

เนื่องจาก Input คือสิ่งที่สามารถควบคุมได้จึงควรโฟกัสไปที่ Input ด้วย สิ่งที่เป็นประโยชน์เมื่อคุณรู้ Input ของคุณคือคุณสามารถวิเคราะห์ระบุเหตุที่เกิดได้จากปัญหาเหล่านั้น

และนี้ก็เป็นความจริงที่ว่า

No plan survives contact with the enemy.

smart prussian army guy

“เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับคู่แข่งได้” ค่ะ

ที่มา : TechinAsia

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

CATL เปิดตัวแบตพลังงานคู่ วิ่งได้กว่า 1,500 กม. ต่อชาร์จ พร้อมแบตชาร์จเร็ว 5 นาที วิ่งได้ 520 กม.

CATL บริษัทผู้ผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของโลก ได้เปิดตัวเทคโนโลยีเซลล์แบตเตอรี่เวอร์ชันล่าสุดภายในงาน Tech Day ประจำปีที่จัดขึ้นในเซี่ยงไฮ้...

Responsive image

รู้จัก Embedded Financing กับโอกาสขยายบริการทางการเงินในธุรกิจ ผ่าน Webinar จาก Bettr ประเทศไทย

ห้ามพลาด! Free Webinar ครั้งแรกจาก Bettr ประเทศไทย เจาะลึก Embedded Financing พร้อมเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้และสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็ก (MSMEs) ด้วยเทคโนโลยีการเงินที่เข้าถึงง่าย...

Responsive image

เปิดตัว 'THAI Academy' โครงการอัปสกิล AI ให้ล้านคนไทยในปี 68 โดยรัฐบาล ไมโครซอฟท์ และ 35 พันธมิตร

รวมข้อมูลและความร่วมมือจัดทำ 'THAI Academy' โครงการยกระดับพันธกิจเสริมทักษะด้าน AI ให้ครอบคลุมคนไทย 1 ล้านคน และ 'AI Skills Navigator' แพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์ที่มีหลักสูตรด้าน ...