ARV เปิดตัว Horrus โดรนขับเคลื่อนอัตโนมัติเต็มรูปแบบครั้งแรกของไทย มุ่งต่อยอดเชิงพาณิชย์

บริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ส จำกัด หรือ เออาร์วี (ARV) สร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญให้กับวงการอากาศยานไร้คนขับในประเทศไทย เปิดตัว “Horrus: Fully Automated Drone Solution” เทคโนโลยีอากาศยานไร้คนขับ (Drone) ที่สามารถทำงานได้ด้วยการขับเคลื่อนตัวเองอย่างเป็นอิสระ (Unmanned Aerial Vehicle) อย่างสมบูรณ์แบบเป็นครั้งแรกของประเทศไทย ปลดล็อกข้อจำกัดเดิมๆ ที่เกิดขึ้นจากปัญหาการใช้งานโดรนในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เผยผลการทดลองนำร่องใช้งานในพื้นที่ศูนย์วิจัยพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม ปตท.สผ. (PTIC) ประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และลดต้นทุนได้มากขึ้น ทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงในการปฏิบัติงานให้บุคลากร เตรียมต่อยอดใช้งานด้านการช่วยเหลือสังคม และสิ่งแวดล้อม พร้อมเตรียม เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์สู่กลุ่มธุรกิจและหน่วยงานภาครัฐ ทั้งขนาดกลางและขนาดใหญ่ 

ดร. ธนา สราญเวทย์พันธุ์ General Manager, บริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ส จำกัด หรือ เออาร์วี (ARV) ผู้นำด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์และหุ่นยนต์ในเครือบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. เปิดเผยว่า “ด้วยพันธกิจที่สำคัญของ ARV ในการพัฒนาต่อยอดองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีชั้นสูงสำหรับสนับสนุนกิจกรรมการสำรวจ พัฒนา และผลิตปิโตรเลียม เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้กับ ปตท.สผ. และต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจให้กับอุตสาหกรรมอื่น ๆ อาทิ ภาคเกษตรกรรม กลุ่มธุรกิจก่อสร้างและกลุ่มธุรกิจพลังงาน ซึ่งเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) และหุ่นยนต์ (Robots) ถือเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่สำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และเศรษฐกิจของไทย เทคโนโลยีอากาศยานไร้คนขับหรือโดรน เป็นเทคโนโลยีที่มีความโดดเด่น และถูกนำมาประยุกต์ใช้ในงานอุตสาหกรรมที่หลากหลายและแพร่หลายมากขึ้น เนื่องจากสามารถช่วยเพิ่มทั้งประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงของบุคลากรในการปฏิบัติงาน ไปจนถึงการเข้าไปมีส่วนร่วมในเหตุฉุกเฉินและทำให้การช่วยเหลือสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี แต่ข้อจำกัดสำคัญของการบินโดรน คือจะต้องถูกควบคุมโดยนักบิน UAV ที่มีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญในการบิน”

“ARV ในฐานะขององค์กรที่มีประสบการณ์ได้คลุกคลีอยู่กับเทคโนโลยีอากาศยานไร้คนขับจากการที่มีบริษัทย่อยในเครืออย่าง บริษัท สไกลเลอร์ โซลูชั่นส์ จำกัด หรือ สไกลเลอร์ ที่นำเทคโนโลยีอากาศยานไร้คนขับ เข้ามามีบทบาทสำคัญในการดำเนินธุรกิจ ทำให้มองเห็นข้อจำกัด (Pain Point) ที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรม 3 ด้านหลัก ได้แก่ 1. บุคลากรที่เชี่ยวชาญมีประสบการณ์ในการบินอากาศยานไร้คนขับหรือนักบิน UAV มีจำนวนค่อนข้างน้อยในประเทศไทย 2. บุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญมีค่าแรงสูง และไม่สามารถบินต่อเนื่องได้นานหลายชั่วโมง ส่งผลให้ผู้ใช้บริการมีต้นทุนสูงในแต่ละครั้งที่ปฏิบัติภารกิจ และ 3. ข้อจำกัดของพื้นที่ สภาพภูมิประเทศ สภาพอากาศ และสถานการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อนักบินโดรน” ดร. ธนากล่าวเสริม

“ARV จึงมีแนวคิดในการพัฒนา “Horrus: Fully Automated Drone Solution” ขึ้น เพื่อเพิ่มศักยภาพให้เทคโนโลยีอากาศยานไร้คนขับให้สามารถทำงานได้ด้วยการขับเคลื่อนตัวเองอย่างเป็นอิสระ (Unmanned Aerial Vehicle - UAV) อย่างสมบูรณ์แบบเป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยสามารถตั้งโปรแกรมการปฏิบัติภารกิจได้แบบอัตโนมัติ และปฏิบัติภารกิจซ้ำได้อย่างเป็นกิจวัตรผ่านแพลตฟอร์มการควบคุมระยะไกล (Remote controlled) โดยไม่ต้องใช้นักบิน (UAV) นับเป็นก้าวสำคัญของการปฏิวัติวงการอากาศยานไร้คนขับ (Drone) ครั้งสำคัญในประเทศไทย”ดร. ธนากล่าวเพิ่มเติม

นายภาคภูมิ เกรียงโกมล Robotic Team Lead, บริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ส จำกัด หรือ เออาร์วี (ARVเปิดเผยว่า “เทคโนโลยี “Horrus: Fully Automated Drone Solution” มีส่วนประกอบหลักๆ 3 ส่วน ดังนี้ 1. โดรนไร้คนขับ แบบ 4 ใบพัด บินต่อเนื่องได้ประมาณ 30 นาที ต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง 2. แพลตฟอร์ม ควบคุมการทำงานจากระยะไกลเพื่อควบคุม Horrus และ3. Ground control station เป็นฐานในการรับคำสั่งการบิน และชาร์จไฟ ในการปฏิบัติภารกิจ ซึ่งเมื่อ 3 ส่วนนี้ทำงานร่วมกัน ผู้ใช้งาน (User) Horrus จะสามารถตั้งโปรแกรมการปฏิบัติภารกิจล่วงหน้าได้จากผ่านการควบคุมระยะไกล โดย Horrus จะส่งอากาศยานไร้คนขับออกปฏิบัติภารกิจตามจุดที่โปรแกรมไว้อย่างครบถ้วนแม่นยำเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจเรียบร้อยแล้วก็จะบินกลับมาชาร์จตัวเองในระยะรัศมี 6 กิโลเมตรที่จุด Ground Control station ซึ่งจุดนี้ยังมีหน้าที่ในการประมวลผล อัพโหลดภาพถ่าย และวิดีโอผ่านสัญญาณอินเตอร์เน็ต กลับมายังผู้ใช้งาน แม้แต่การถ่ายทอดภาพสัญญาณสดที่สามารถดูได้ทันทีแบบเรียลไทม์”

โดยปัจจุบัน“Horrus: Fully Automated Drone Solution” ถูกนำร่องใช้งานจริงแล้วในศูนย์วิจัยพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม ปตท.สผ. (PTTEP Technology and Innovation Centre - PTIC) รวมถึงใช้ในการสำรวจแท่นขุดเจาะปิโตรเลียมตรวจสอบอย่างเป็นกิจวัตร (Routine inspection) แทนการส่งพนักงานโดยสารเรือออกไปสำรวจ เพื่อบินออกไปเก็บภาพถ่าย วิดีโอ ตลอดจนใช้คลื่นความร้อนเพื่อสำรวจ ตรวจ จับ รอยแตก รอยร้าวภายในและภายนอกของปล่องท่อเชื้อเพลิง ได้อย่างครบถ้วนและรวดเร็ว ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับพนักงาน ทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และลดต้นทุนให้กับองค์กรได้มากขึ้น โดยได้เตรียมต่อยอดการใช้งานไปในอุตสาหกรรมสำรวจและผลิตพลังงานในเครือ ฯลฯ นอกเหนือจากประโยชน์ในมิติของธุรกิจแล้วยังเตรียมนำไปใช้ประโยชน์ในการช่วยเหลือสังคมและสิ่งแวดล้อม เช่น การสำรวจทรัพยากรธรรมชาติ การรักษาความปลอดภัยชายฝั่ง และการบรรเทาสาธารณภัย ช่วยลดปัญหาด้านอัคคีภัยและไฟป่า ผ่านเทคโนโลยีโดรนดับเพลิง ซึ่งเป็นโครงการของ บริษัท สไกลเลอร์ โซลูชั่นส์ จำกัด หรือ สไกลเลอร์ หนึ่งในบริษัทในเครือของ ARV ที่สามารถตรวจจับสัญญาณไฟ และดับไฟป่า ซึ่งจะมีการเปิดตัวเร็วๆ นี้”

“ทั้งนี้ ARV เตรียมผลักดันเทคโนโลยี “Horrus: Fully Automated Drone Solution” เพื่อให้บริการเชิงพาณิชย์ แก่หน่วยงานธุรกิจ และภาครัฐทั้งขนาดกลางและขนาดใหญ่ ที่มีความสนใจนำเทคโนโลยีโดรนไร้คนขับไปต่อยอดเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและลดต้นทุนให้กับธุรกิจของตนเอง โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมสำรวจและผลิตพลังงาน อุตสาหกรรมการก่อสร้าง,นิคมอุตสาหกรรมการผลิต, อุตสาหกรรมพลังงานทดแทน, อุตสาหกรรมด้านโทรคมนาคม, ธุรกิจภาคการเกษตร, ธุรกิจขนส่ง, การสำรวจสาธารณูปโภคและสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ ที่ให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ยกระดับศักยภาพทางธุรกิจ โดยสามารถติดต่อขอรับรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ARV [email protected] หรือ โทร 02-078-4000” นายภาคภูมิกล่าวสรุป


ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

เจซีแอนด์โค” ร่วมมือ “ฮาห์ม พาร์ทเนอร์” เปิดกลยุทธ์เสริมแกร่ง แบรนด์เกาหลีสู่ไทยและตลาด APAC

รู้จัก “One Asia Communications” การรวมตัวจาก บ.พีอาร์กว่า 10 ชาติในเอเชีย เสริมแกร่งงานสื่อสารข้ามประเทศ สร้างการเข้าถึงตลาด APAC ได้อย่างไร้รอยต่อ...

Responsive image

ส.อ.ท. จับมือ ม.มหิดล ลงนามความร่วมมือ ดันเกษตรอัจฉริยะ โครงการ SAI

สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และมหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมลงนามในข้อตกลงความร่วมมือ “โครงการนวัตกรรมต้นแบบ Smart Agriculture Industry (SAI) เพื่อการเรียนรู้และบ่มเพาะแนวทางเกษตรอ...

Responsive image

Grab เปิดตัว GrabExecutive หลังบริการเรียกรถพรีเมียมโต 50% พร้อมดึง VATANIKA ดีไซน์ชุดเครื่องแบบคนขับ

แกร็บเปิดตัว GrabExecutive บริการเรียกรถหรูระดับพรีเมียม โตแรง 50% เจาะตลาดนักธุรกิจ-นักท่องเที่ยวไฮเอนด์ พร้อมบริการสุดเอ็กซ์คลูซีฟ รถหรู-คนขับมืออาชีพ-ดีไซน์ยูนิฟอร์มโดย VATANIKA...