HDR สำคัญอย่างไร

ตั้งแต่มีการประดิษฐ์โทรทัศน์ ตามมาด้วยหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือเทคโนโลยีด้านการแสดงผลหน้าจอประเภทอื่นๆ ซึ่งเป็นอุปกรณ์เพื่อผู้บริโภค ผู้ผลิตนวัตกรรมก็ดูเหมือนกำลังไล่ให้ทันความสามารถในการมองเห็นของมนุษย์มาโดยตลอด นอกจากพัฒนาเรื่องความละเอียดแล้ว ก็ยังพัฒนาเทคโนโลยีช่วงสีแบบ Wide Color Gamut (WCG) และ HDR (High Dynamic Range) อีกด้วย ซึ่งสามารถสร้างภาพดิจิทัลได้ใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุด จากมุมมองของนักสร้างคอนเทนต์ เทคโนโลยีเหล่านี้จะช่วยให้ผู้สร้างภาพยนตร์และผู้จัดรายการโทรทัศน์สามารถนำประสบการณ์การรับชมในโรงภาพยนตร์มาสู่การรับชมที่บ้านได้ 

วีดีโอระบบ SDR (Standard Dynamic Range) แบบดั้งเดิมใช้ข้อมูลความสว่าง (Luminance Data) แบบ 8 bits (การประมวลผลสัญญาณแบบ Quantization) ขณะที่ปัจจุบันระบบ HDR รุ่นใหม่กว่าจะใช้แบบ 10 bits หรือสูงกว่า จึงต้องใช้จำนวนข้อมูลมากขึ้นเพื่อให้พอดีกับค่าพิสัยความสว่างที่เพิ่มขึ้ นรวมถึงค่าความละเอียด (Graduation) ที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม โทรทัศน์ทุกเครื่องไม่สามารถแสดงค่าความสว่างหรือความมืดได้เท่ากัน รวมถึงค่าสีด้วย ด้วยเหตุนี้เราจึงใช้กระบวนการ Tone Mapping Metadata เพื่อปรับค่าตามแต่ละหน้าจอ ในระบบ HDR10 ข้อมูล Metadata นี้เป็นค่าคงที่อิงจากค่าสูงสุดและต่ำสุดของคลิปวิดีโอ รายการ หรือภาพยนตร์นั้นๆ  HDR10+ ซึ่งเป็นรุ่นล่าสุดได้ปรับแก้ในเรื่องนี้แล้ว ด้วยการใช้ Metadata แบบไดนามิก ซึ่งสามารถเปลี่ยนค่าได้ตามแต่ละฉากในการสตรีมวิดีโอ และยังมีความแม่นยำแบบเฟรมต่อเฟรมอีกด้วย แต่ MediaTek ก้าวล้ำไปอีกขั้นด้วยการใช้เทคนิคปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในโทรทัศน์รุ่นล่าสุดบางรุ่น ในการระบุวัตถุและตั้งค่าให้เหมาะสมกับโทรทัศน์แต่ละเครื่อง เพื่อปรับคุณภาพของภาพให้เหมาะสมที่สุดโดยยังอิงตามมาตรฐาน HDR (ยกตัวอย่างเช่น ใช้การจับคู่โทนสีผิวกับใบหน้ามนุษย์ เป็นต้น)

ส่วนมาตรฐานรุ่นถัดไปก็คือ HDR10+ Adaptive ซึ่งใช้เซ็นเซอร์รับแสงจากสภาพแวดล้อมที่ฝังมากับตัวเครื่อง โดยเทคโนโลยี HDR นี้จะช่วยปรับแก้การแสดงผลหน้าจอตามความสว่างของสภาพแวดล้อม ไม่ว่าคุณจะปิดไฟดูโทรทัศน์อยู่ในบ้านตอนเย็น หรือดูหนังผ่านสมาร์ทโฟนอยู่นอกบ้านตอนเที่ยงวันก็ตาม

ภาพรวมของอุตสาหกรรม HDR 

 จากการสัมมนาออนไลน์ครั้งล่าสุดที่พูดคุยเกี่ยวกับระบบนิเวศของ HDR10 ซึ่งจัดขึ้นโดยคณะกรรมการควบคุมอุตสาหกรรมและตัวแทนจากผู้พัฒนาเทคโนโลยีการแสดงผลหน้าจอ และผู้ให้บริการคอนเทนต์รายใหญ่ซึ่งมี Samsung, YouTube, Amazon Prime, SMPTE, HTSA และ MediaTek

คุณ Alfred Chan รองประธานกรรมการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์แห่งหน่วยธุรกิจทีวีของ MediaTek ตั้งข้อสังเกตว่า บริษัทเป็นศูนย์กลางของระบบนิเวศ HDR ในฐานะซัพพลายเออร์ชิป SoC สำหรับโทรทัศน์ (TV-SoC) ชั้นนำของโลก และเป็นซัพพลายเออร์ชิป SoC สำหรับสมาร์ทโฟนรายใหญ่ที่สุดของโลกรายหนึ่ง MediaTek ให้บริการอุปกรณ์สำหรับผู้บริโภคจำนวนมาก ซึ่งทุกคนจะได้เพลิดเพลินไปกับการรับชมโทรทัศน์ ภาพยนตร์ และรูปแบบความบันเทิงทั้งแบบสตรีมมิ่งหรือถ่ายทอดสด MediaTek ยังจัดส่งชิป TV-SoC ให้กับทุกกลุ่มธุรกิจทั้งตั้งแต่แบบ 8K จนถึง HD ทั่วโลก ตั้งแต่ปี 2561 ชิป SoC สำหรับสมาร์ททีวีของ MediaTek ได้นำเทคโนโลยี HDR10 และ HDR10+ อันล้ำสมัยที่สุดมาสู่กลุ่มผู้ผลิต OEM นอกเหนือจากมาตรฐานแบบเปิด (Open Standard) แล้วนั้น ยังรองรับรูปแบบ HDR ยอดนิยมแบบอื่นด้วย เช่น Dolby Vision เป็นต้น 

คุณ Alfred ได้กล่าวเสริมอีกว่า คุณภาพของภาพยิ่งมีความสำคัญต่อผู้บริโภคมากยิ่งขึ้นเมื่อโทรทัศน์นั้นมีขนาดใหญ่ขึ้น และสำคัญต่อระบบ HDR ที่ต้องใช้ Metadata แบบเฟรมต่อเฟรมที่แม่นยำ เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมมาตรฐาน HDR10+ (และ Dolby Vision) ล่าสุดจึงมีความสำคัญมาก MediaTek ได้ทำงานร่วมกับผู้ให้บริการสตรีมคอนเทนต์รายใหญ่ที่สุด นักออกแบบสมาร์ททีวี และคณะทำงาน HDMI Forum เพื่อสร้างแนวทางการผลิตเพื่อให้เกิดเป็นแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) ดังนั้นผู้ผลิตอุปกรณ์ที่ใช้ชิป SoC สำหรับโทรทัศน์ของ MediaTek จะสามารถมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดแก่ลูกค้าได้ไม่ว่าลูกค้าจะซื้อมาจากที่ใด หรือดูคอนเทนต์อะไรอยู่ก็ตาม คู่ค้าของเราไม่ได้เพียงแค่ซื้อชิปที่เราจัดส่งให้เท่านั้น แต่บริษัทยังได้รับโทรทัศน์รุ่นใหม่นับพันรุ่นที่ผลิตจากพันธมิตรทุกปี และยังได้ตรวจสอบคุณภาพของภาพ ความถูกต้อง และการปฏิบัติตามมาตรฐานเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ชิป SoC สำหรับสมาร์ททีวีระดับไฮเอนด์รุ่นล่าสุดของ MediaTek ยังสามารถรองรับโซนแบ็คไลท์ได้มากถึง 10,000 โซน และสูงถึง 3000-nits ในโทรทัศน์ระดับเรือธง MediaTek ได้ลงทุนมหาศาลไปกับเอ็นจิ้น AI แบบฝังในชิป โดย MediaTek สามารถตรวจสอบเนื้อหาได้ทีละฉาก รวมถึงรับคำแนะนำจาก Metadata HDR ตรวจสอบเซ็นเซอร์วัดแสงโดยรอบ (แสงจากภายนอก) และปรับตั้งค่าคอนทราสต์ที่ดีที่สุดให้แก่โทรทัศน์ และด้วยการประมวลผลทั้งหมดที่ได้กล่าวมานี้ จะทำให้การใช้รีโมทคอนโทรลเพื่อเปลี่ยนการตั้งค่าโหมดการแสดงผลกำลังจะกลายเป็นประวัติศาสตร์ในไม่ช้า และในอนาคต ด้วยความรู้เชิงเทคโนโลยี AI ของ MediaTek โทรทัศน์จะสามารถประเมินผลได้อย่างต่อเนื่อง และปรับตั้งค่าที่ดีที่สุดได้โดยอัตโนมัติ ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับความสะดวกสบายสูงสุด

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

เจซีแอนด์โค” ร่วมมือ “ฮาห์ม พาร์ทเนอร์” เปิดกลยุทธ์เสริมแกร่ง แบรนด์เกาหลีสู่ไทยและตลาด APAC

รู้จัก “One Asia Communications” การรวมตัวจาก บ.พีอาร์กว่า 10 ชาติในเอเชีย เสริมแกร่งงานสื่อสารข้ามประเทศ สร้างการเข้าถึงตลาด APAC ได้อย่างไร้รอยต่อ...

Responsive image

ส.อ.ท. จับมือ ม.มหิดล ลงนามความร่วมมือ ดันเกษตรอัจฉริยะ โครงการ SAI

สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และมหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมลงนามในข้อตกลงความร่วมมือ “โครงการนวัตกรรมต้นแบบ Smart Agriculture Industry (SAI) เพื่อการเรียนรู้และบ่มเพาะแนวทางเกษตรอ...

Responsive image

Grab เปิดตัว GrabExecutive หลังบริการเรียกรถพรีเมียมโต 50% พร้อมดึง VATANIKA ดีไซน์ชุดเครื่องแบบคนขับ

แกร็บเปิดตัว GrabExecutive บริการเรียกรถหรูระดับพรีเมียม โตแรง 50% เจาะตลาดนักธุรกิจ-นักท่องเที่ยวไฮเอนด์ พร้อมบริการสุดเอ็กซ์คลูซีฟ รถหรู-คนขับมืออาชีพ-ดีไซน์ยูนิฟอร์มโดย VATANIKA...