KPMG เผยแนวทาง ESG สำหรับองค์กร สร้างการเปลี่ยนแปลงได้ วัดผลได้จริง

ภายใต้โครงการลงทุนมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง เคพีเอ็มจี วางแผนทุ่มงบประมาณกว่า 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 3 ปีข้างหน้าเพื่อมุ่งเน้นวาระการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) โดยกลยุทธ์ด้าน ESG ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยลูกค้าของเราในการสร้างความแตกต่างในเชิงบวก และที่สำคัญ กลยุทธ์นี้จะตอบสนองและสนับสนุนเคพีเอ็มจีที่มีความรับผิดชอบในการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลก และพันธกิจด้านESG ที่ระบุไว้ในโครงการ KPMG: Our Impact Plan

การลงทุนครั้งนี้ เคพีเอ็มจีจะดำเนินการโดยมุ่งเน้นไปที่การฝึกอบรมและขยายจำนวนบุคคลากรทั่วโลก เพื่อเข้าถึงและนำข้อมูลมาปรับใช้ เร่งการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ และขับเคลื่อนการดำเนินงานผ่านพันธมิตรต่างๆ รวมถึงการรณรงค์สร้างความเปลี่ยนแปลง ปัจจัยหลักสู่การเปลี่ยนแปลงคือการ นำเอาแนวปฏิบัติด้าน ESG มาใช้กับทั้งองค์กรและลูกค้าของเคพีเอ็มจีพื่อขับเคลื่อนสู่การเปลี่ยนแปลงที่สามารถวัดผลได้
กลยุทธ์ ESG ใหม่ ของเคพีเอ็มจีทั่วโลก มุ่งเน้น 5 ด้านที่สำคัญ ดังนี้

1. แนวทางการดำเนินการ/สำหรับลูกค้า

ศูนย์ปฏิบัติการใหม่เฉพาะด้าน 5 แห่ง เพื่อให้บริการด้วยความเชี่ยวชาญระดับโลกและแก้ปัญหาในประเด็น ESG ที่สำคัญ โดยจะเน้นไปที่

    • การลดการปล่อยคาร์บอนในระดับโลก เพื่อช่วยธุรกิจข้ามชาติขนาดใหญ่ให้บรรลุพันธกิจการลดคาร์บอนสุทธิให้เป็นศูนย์ และวางแผนการลดคาร์บอน
    • ที่ปรึกษาด้าน ESG ทั่วโลก สนับสนุนโดยทีมที่ปรึกษาธุรกิจของเคพีเอ็มจี ที่ให้บริการด้วยความเชี่ยวชาญด้าน ESG ชั้นนำของตลาด รวมถึงการเป็นผู้นำในประเด็นทางสังคมและแนวทางแก้ไข
    • ศูนย์ปฏิบัติการด้าน ESG ระดับภูมิภาค แห่ง จัดตั้งในยุโรป เอเชียแปซิฟิก และอเมริกา เพื่อให้ลูกค้าของเคพีเอ็มจี สามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกและความเชี่ยวชาญระดับโลกได้สะดวกขึ้น ในทุกแง่มุมของวาระ ESG

เคพีเอ็มจีจะลงทุนในโซลูชันและเทคโนโลยีชั้นนำด้านสภาพภูมิอากาศและ ESG เช่น Climate IQ ซึ่งเป็นเครื่องมือดิจิทัลที่ช่วยให้องค์กรต่างๆ ระบุโอกาสและความเสี่ยงที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และเพื่อเสริมการลงทุนทางเทคโนโลยี เคพีเอ็มจีจะขยายกำลังคน ทั้งสำหรับงานที่ปรึกษา ESG และเพื่อให้ความเชื่อมั่นในการเปิดเผยข้อมูล ESG นอกจากนี้ เคพีเอ็มจีจะพัฒนาเทคโนโลยีกระบวนการตรวจสอบที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตนเองเพื่อให้สามารถส่งมอบการให้ความเชื่อมั่นด้าน ESG ด้วยคุณภาพและมาตรฐานเดียวกันกับที่เคพีเอ็มจีใช้ในการสอบบัญชี


2. ความพร้อมของบุคคลากร

เคพีเอ็มจีจะจัดฝึกอบรมด้าน ESG ให้แก่บุคลากรทั้ง 227,000 คนขององค์กร เพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนพร้อมที่จะเป็นตัวแทนความเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก ในการฝึกอบรมนี้ เคพีเอ็มจีได้ทำงานร่วมกับสถาบันการศึกษาชั้นนำระดับโลก 2 แห่ง ได้แก่ วิทยาลัยธุรกิจเคมบริดจ์จัดจ์แห่งมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ และวิทยาลัยธุรกิจสเติร์นสำหรับผู้บริหารระดับสูงแห่งมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก

·       วิทยาลัยธุรกิจเคมบริดจ์จัดจ์แห่งมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ จะสร้างทักษะ ESG รวมถึงการพัฒนากรอบการเรียนรู้และโซลูชันที่จะนำไปใช้กับเคพีเอ็มจีทั่วโลก นำโดยคณาจารย์ของวิทยาลัยธุรกิจและผู้เชี่ยวชาญอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเริ่มจากผู้บริหารระดับสูงสุดของเคพีเอ็มจีจำนวนหลายร้อยคน และตั้งเป้าให้เข้าถึงบุคลากรของเคพีเอ็มจีทุกคนทั่วโลก

วิทยาลัยธุรกิจสเติร์นสำหรับผู้บริหารระดับสูงแห่งมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก จะร่วมสร้างโครงการความยั่งยืนสำหรับเคพีเอ็มจี ในรูปแบบของการศึกษาสำหรับผู้บริหาร

 

3. การสนับสนุนประเทศกำลังพัฒนา

เคพีเอ็มจีจะเปิดตัวโครงการเร่งพัฒนาศักยภาพตลาดเกิดใหม่ (KPMG Emerging Markets Accelerators) สำหรับประเทศกำลังพัฒนาในแถบเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก แอฟริกา เอเชียแปซิฟิก และละตินอเมริกา โดยเป้าหมายของ Emerging Markets Accelerators คือเพื่อให้แน่ใจว่าภูมิภาคของโลกที่ขาดความเชี่ยวชาญและทรัพยากรจะมีที่ปรึกษาที่เชื่อถือได้เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (UN SDGs)


4. ความร่วมมือและพันธมิตร

เคพีเอ็มจีตระหนักดีว่าปัญหาต่างๆ ของโลกไม่สามารถแก้ไขได้โดยองค์กรใดองค์กรหนึ่งเท่านั้น จึงเป็นสาเหตุให้บริษัทต้องสร้างความร่วมมือกับองค์กรภายนอก ได้แก่ UNESCO Enactus และ Global Reporting Initiative

ผ่านระบบนิเวศทางธุรกิจของพันธมิตรของเรา เช่น Microsoft และ ServiceNow เคพีเอ็มจีกำลังร่วมสร้างเครื่องมือและโซลูชันใหม่ๆ ที่จะให้ข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญตามข้อมูลที่องค์กรสามารถใช้เพื่อกำหนดนโยบาย ESG ของตนและดำเนินการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเพื่อให้บรรลุพันธกิจขององค์กร


5. การรับฟังและให้การสนับสนุน

เพื่อช่วยดำเนินนโยบายหลักในการสนับสนุน ESG ระดับโลก เคพีเอ็มจี ยังได้เปิดตัวแคมเปญใหม่ที่ชื่อว่า Voices for a Sustainable Future ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่จะขยายมุมมองของนักคิดที่เป็นที่ยอมรับและนักคิดใหม่ๆ ให้เป็นเวทีสำหรับประเด็นที่สำคัญต่างๆ เช่นการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ความเท่าเทียมทางเพศและเชื้อชาติ เป็นต้น โดยโครงการนี้จะสามารถสร้างข้อมูลเชิงลึกที่นำไปใช้ได้จริงเพื่อช่วยเร่งการเดินทางสู่อนาคตที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น


บิลล์ โทมัส ประธานและซีอีโอ เคพีเอ็มจี อินเตอร์เนชั่นแนล
กล่าวว่า “วิธีที่องค์กรใช้ในการเติบโตนั้นมีความสำคัญ และสิ่งที่เคยใช้ได้ผลกับองค์กรของเราและธุรกิจอื่นๆ ในอดีตจะใช้ไม่ได้ในอนาคต โลกกำลังเผชิญกับวิกฤตในหลายด้าน นั่นคือเหตุผลที่เรากำหนดให้วาระด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาลเป็นหัวใจของทุกสิ่งที่เราทำ ESG จะเป็นกลยุทธ์หลักที่ดำเนินการผ่านองค์กรระดับโลกของเคพีเอ็มจี ตั้งแต่การส่งเสริมให้บุคลากรของเราเป็นตัวแทนการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก ไปจนถึงงานบริการต่างๆ ที่ให้กับลูกค้า และการเป็นพันธมิตรกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สำคัญ เคพีเอ็มจี มีความเชี่ยวชาญ เทคโนโลยี และความสัมพันธ์ระดับโลกที่ทำให้เรามีความสามารถและความรับผิดชอบในการใช้จุดยืนขององค์กรในการจัดหาโซลูชันและบริการต่างๆ เพื่อเอาชนะความท้าทายที่โลกและสังคมของเราเผชิญอยู่”


ริชาร์ด เธรลฟอล ประธานฝ่าย ESG ของเคพีเอ็มจีอินเตอร์เนชันแนล และ KPMG IMPACT 
กล่าวว่า “เป็นหน้าที่ของเราทุกคน ทั้งในฐานะธุรกิจและในฐานะปัจเจกบุคคล ที่จะมีส่วนร่วมในการจัดการกับความท้าทายที่คุกคามอนาคตของโลกและคุณภาพชีวิตของผู้คนทั่วโลก กลยุทธ์ ESG ระดับโลกของเคพีเอ็มจีจะช่วยให้บุคลากรของเราสร้างความแตกต่าง ตลอดจนระดมข้อมูลและเทคโนโลยีเพื่อสนับสนุน แต่เรายังตระหนักด้วยว่าการเปลี่ยนแปลงที่สังคมเรียกร้องนั้นจะเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิผลสูงสุดผ่านการทำงานร่วมกันแบบเปิด โดยมีพื้นฐานอยู่บนความไว้วางใจ และเราจะยังคงแสวงหาโอกาสในการร่วมมือกับองค์กรอื่นๆ ที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันเพื่อให้ทุกคน ทุกภูมิภาค มีอนาคตที่ดีกว่า”

กลยุทธ์ ESG ระดับโลกของเคพีเอ็มจี เกิดขึ้นในระยะเวลาไม่ถึงหนึ่งปีหลังจากที่องค์กรเปิดตัวโครงการ KPMG: Our Impact Plan ซึ่งระบุความมุ่งมั่นขององค์กรในด้าน ESG โดยมีเป้าหมายสูงสุดในการสร้างผลกระทบเชิงบวกที่ยิ่งใหญ่ยิ่งขึ้นต่อโลก เคพีเอ็มจีเป็นองค์กรผู้ให้บริการมืออาชีพแห่งแรกที่มีการรายงานอย่างโปร่งใสต่อตัวชี้วัดความยั่งยืนของเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum) แผนดังกล่าวกำหนดเป้าหมายตามหลักวิทยาศาสตร์ รวมถึงการให้คำมั่นที่จะเป็นองค์กรคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2573 การดำเนินการและการเร่งความเร็วของโครงการ KPMG: Our Impact Plan อยู่ในลำดับความสำคัญหลักของเคพีเอ็มจีทั่วโลกในการปฏิบัติตามพันธกิจด้านการจัดการกับปัญหาต่างๆ ตั้งแต่วิกฤตสภาพภูมิอากาศไปจนถึงการเคลื่อนไหวทางสังคมและการมีส่วนร่วมของชุมชน

เจริญ ผู้สัมฤทธิ์เลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เคพีเอ็มจี ประเทศไทย เมียนมาร์ และลาว กล่าวว่า “ในประเทศไทย กลยุทธ์ ESG ถือเป็นหัวใจหลักของทุกสิ่งที่เราทำ เราเชื่อว่าทุกภาคส่วนจะสามารถเติบโตไปพร้อมกันได้หากมีการส่งเสริมความยั่งยืนและทุกคนในสังคมมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน โครงการ KPMG Care & Share ที่ดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่องมีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยชุมชนที่เราอาศัยและทำงานอยู่ในวงกว้าง โดยมีกิจกรรมหลากหลายที่ครอบคลุมทุกแง่มุมของ ESG ในด้านสิ่งแวดล้อม เรามุ่งลดการปล่อยคาร์บอนด้วยการลดใช้กระดาษ ลดพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง และนำไปรีไซเคิลสู่อุปกรณ์การแพทย์เพื่อบริจาคให้แก่โรงพยาบาล ในด้านสังคม เราส่งเสริมการศึกษาผ่านทุนการศึกษาและการบริจาคคอมพิวเตอร์ให้กับโรงเรียนในชุมชนด้อยโอกาส นอกจากนี้ เคพีเอ็มจียังเป็นพันธมิตรกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดอบรมให้ความรู้และพัฒนานิสิต ภายใต้โครงการ Up Academy เป็นประจำทุกปี โดยในปี 2564 จัดในหัวข้อ Youth ESG ที่มุ่งเน้นการเสริมสร้างทัศนคติด้าน ESG ให้แก่นิสิตผู้เข้าร่วมโครงการ ในปัจจุบัน เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 เราตั้งเป้าที่จะช่วยบรรเทาผลกระทบต่อสังคมด้วยการระดมเงินอย่างต่อเนื่องเพื่อสนับสนุนโรงพยาบาลต่างๆ ที่ช่วยยับยั้งการแพร่กระจายของโควิด-19 รวมถึงการบริจาคเตียงสำหรับโรงพยาบาลสนาม อุปกรณ์ PPE และสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ในการรักษาพยาบาล ในด้านบรรษัทภิบาล เคพีเอ็มจีดำเนินงานภายใต้กฏข้อบังคับและมาตรฐานสูงสุด เพื่อที่จะสามารถให้บริการที่มีคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้สถาบัน KPMG Institute ยังคงพัฒนาบุคลากรของเราอยู่เสมอด้วยการเพิ่มทักษะแห่งอนาคตและจัดโปรแกรมการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มศักยภาพ รวมไปถึงสนับสนุนให้พนักงานของเราทำงานด้วยความซื่อสัตย์ ทั้งหมดนี้จะช่วยให้เราคงความเป็นองค์กรชั้นนำที่มอบคุณค่าอย่างแท้จริงสู่สังคม”


ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

เจซีแอนด์โค” ร่วมมือ “ฮาห์ม พาร์ทเนอร์” เปิดกลยุทธ์เสริมแกร่ง แบรนด์เกาหลีสู่ไทยและตลาด APAC

รู้จัก “One Asia Communications” การรวมตัวจาก บ.พีอาร์กว่า 10 ชาติในเอเชีย เสริมแกร่งงานสื่อสารข้ามประเทศ สร้างการเข้าถึงตลาด APAC ได้อย่างไร้รอยต่อ...

Responsive image

ส.อ.ท. จับมือ ม.มหิดล ลงนามความร่วมมือ ดันเกษตรอัจฉริยะ โครงการ SAI

สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และมหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมลงนามในข้อตกลงความร่วมมือ “โครงการนวัตกรรมต้นแบบ Smart Agriculture Industry (SAI) เพื่อการเรียนรู้และบ่มเพาะแนวทางเกษตรอ...

Responsive image

Grab เปิดตัว GrabExecutive หลังบริการเรียกรถพรีเมียมโต 50% พร้อมดึง VATANIKA ดีไซน์ชุดเครื่องแบบคนขับ

แกร็บเปิดตัว GrabExecutive บริการเรียกรถหรูระดับพรีเมียม โตแรง 50% เจาะตลาดนักธุรกิจ-นักท่องเที่ยวไฮเอนด์ พร้อมบริการสุดเอ็กซ์คลูซีฟ รถหรู-คนขับมืออาชีพ-ดีไซน์ยูนิฟอร์มโดย VATANIKA...