กรุงศรี โชว์เคส 5 นวัตกรรมการเงินภายใต้แนวคิด “Think Digital First” ผลักดันประสบการณ์ใหม่ให้ลูกค้า

กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านดิจิทัลแบงก์กิ้งและนวัตกรรมในการพัฒนาแพลตฟอร์มธุรกิจเพื่อลูกค้ารายย่อยและลูกค้าธุรกิจ โชว์เคส 5 นวัตกรรมเด่น ประกอบด้วย e-KYC, e-Savings, Thai QR Cross-border, Tablet Application และ Supply Chain on Blockchain & AI ในงาน Bangkok FinTech Fair 2019 สะท้อนแนวคิด Think Digital First ที่ขับเคลื่อนการสร้างและส่งมอบประสบการณ์ทางการเงินที่เหนือกว่า ทำเรื่องเงินให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับลูกค้าอย่างแท้จริง

คุณฐากร ปิยะพันธ์ ประธานกรรมการกรุงศรี คอนซูมเมอร์ และผู้บริหารสายงานดิจิทัลแบงก์กิ้งและนวัตกรรม ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “กรุงศรีมุ่งขับเคลื่อนองค์กรด้วยเทคโนโลยีสู่เศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล ผ่านการคิดค้นนวัตกรรมทางการเงินใหม่ๆ ในภาคธนาคารอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งสนับสนุนและส่งเสริมนโยบายของภาครัฐในการยกระดับระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตน (National Digital ID) ซึ่งจะเอื้อประโยชน์แก่ทุกฝ่ายโดยเฉพาะผู้บริโภค สำหรับงาน Bangkok FinTech Fair 2019 นี้ กรุงศรีจะนำเสนอนวัตกรรมและความก้าวหน้าของเทคโนโลยี รวมถึงโครงการต่างๆ ที่เราได้พัฒนาขึ้นเพื่อตอบรับกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้ามากยิ่งขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการให้เข้าถึงลูกค้าในทุกกลุ่ม”

รายละเอียดนวัตกรรมที่บูธกรุงศรี ในงาน Bangkok FinTech Fair 2019 ประกอบด้วย

  1. e-KYC: กรุงศรีนำเทคโนโลยีเปรียบเทียบใบหน้า หรือ Facial Recognition e-KYC มาใช้ในการให้บริการเปิดบัญชีเงินฝากที่สาขาของธนาคารกว่า 600 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งช่วยยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล ลดความเสี่ยงการปลอมแปลง หรือความผิดพลาดในการพิสูจน์ตัวตนลูกค้า ป้องกันมิจฉาชีพสวมรอยเปิดบัญชีและทำธุรกรรม ขณะที่ลูกค้าจะได้รับความสะดวกและรวดเร็วในการเปิดบัญชี โดยภายในงาน ผู้สนใจสามารถทดสอบการยืนยันตัวตนโดยเปรียบเทียบใบหน้า หรือเปิดบัญชีออมทรัพย์ด้วยเทคโนโลยีเปรียบเทียบใบหน้าได้
  2. e-Savings: ธนาคารได้พัฒนาและต่อยอดนวัตกรรม e-KYC โดยให้ลูกค้าเปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถเปิดบัญชีผ่านช่องทางออนไลน์ (e-Saving) ซึ่งภายในงานจะแสดงให้เห็นถึงเทคโนโลยีและกระบวนการเปิดบัญชีผ่าน KMA โมบายแอปพลิเคชันได้ เพียงถ่ายภาพบัตรประจำตัวประชาชนหรือพาสปอร์ตถ่ายเซลฟี่ ได้โดยไม่ต้องไปทำการยืนยันตัวตน หรือ เซ็นชื่อที่สาขา ทำให้การเปิดบัญชีเป็นเรื่องง่าย สะดวกมากขึ้น
  3. Thai QR Cross-border: กรุงศรีขับเคลื่อนความก้าวหน้าของแพลตฟอร์มการชำระเงินด้วย QR Code โดยใช้ประโยชน์จากการเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ของ MUFG นำ Thai QR Code ไปใช้ครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่น โดยร้านทาเคยะ (Takeya) หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อ ตึกม่วง ย่านอุเอโนะ (Ueno) จะเป็นแหล่งช้อปปิ้งแรกที่คนไทยที่เดินทางไปท่องเที่ยวในญี่ปุ่นจะได้รับความสะดวกมากขึ้นในการช้อปปิ้งด้วยการชำระค่าสินค้าง่ายๆ เพียงสแกน QR code ผ่าน KMA หรือโมบายแอปพลิเคชันของธนาคารที่ร่วมโครงการ QR Cross-border* เพิ่มความสะดวกและปลอดภัยมากขึ้นโดยไม่ต้องพกพาเงินสดจำนวนมาก อีกทั้งถูกกว่าด้วยอัตราแลกเปลี่ยน (Exchange Rate) ที่ดีกว่าการแลกเงินสดและการชำระเงินด้วยบัตรเครดิต พร้อมทราบยอดที่ต้องชำระในสกุลเงินบาททันที ณ จุดชำระเงินอีกด้วย โดยภายในงานจะมีผลิตภัณฑ์ KitKat Banana Japan Limited Edition (จำนวนจำกัด) มาให้ผู้เข้าร่วมงานได้ทดลองช้อปและจ่ายผ่าน Thai QR Cross-border ในราคา 10 เยน/แพค * ธนาคารที่ร่วมโครงการมีจำนวน 4 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารกรุงศรีอยุธยา
  4. Tablet Application: กรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ เปิดตัว “Tablet Application” สร้างมิติใหม่...อยู่ที่ไหนก็สมัครบัตรได้ ด้วยเทคโนโลยีล่าสุด “Tablet Application” ยกระดับระบบการสมัครบัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ ให้บริการลูกค้าสะดวกมากขึ้น ณ จุดบริการเคลื่อนที่ทั่วประเทศ รู้ผลอนุมัติรวดเร็วใน 30 นาที พร้อมใช้บริการผลิตภัณฑ์ทั้งบัตรสินเชื่อและบัตรเครดิตได้ทันที โดยใช้ระบบ ID Card Reader ช่วยป้อนข้อมูลลูกค้า พร้อมระบบความปลอดภัย OTP เพื่อยืนยันความยินยอมให้ตรวจสอบข้อมูลเครดิตบูโร โดยบริษัท อยุธยา แคปปิตอล เซอร์วิสเซส จำกัด คาดว่าบริการแท็บเล็ตแอปพลิเคชันใหม่นี้ จะช่วยให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น และเพิ่มโอกาสเข้าถึงบริการทางการเงินอย่างทั่วถึง
  5. Supply Chain on Blockchain & AI: เทคโนโลยีขั้นสูงอย่าง Blockchain และ AI ได้ถูกนำมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการกับกลุ่มลูกค้าธุรกิจ ครอบคลุมทั้งผู้จัดจำหน่ายรายใหญ่ และเครือข่ายร้านค้ารายย่อยที่อยู่ในระบบซัพพลายเชน ทำให้ระบบการซื้อ-ขายระหว่างเครือข่าย สะดวก โปร่งใส และคล่องตัวมากยิ่งขึ้น ผนวกกับการนำ AI Deep Learning มาใช้ในการแสดงผลข้อมูลผลิตภัณฑ์ โดยภายในงานจะเป็นการโชว์เคสนวัตกรรม Supply Chain on Blockchain & AI ที่กรุงศรีได้พัฒนา ประยุกต์ใช้จริงกับกลุ่มบริษัทปูนซีเมนต์นครหลวง ตั้งแต่ผู้จัดจำหน่ายรายใหญ่จนถึงเครือข่ายร้านค้ารายย่อย ช่วยยกระดับ Ecosystem ห่วงโซ่ธุรกิจอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างพร้อมให้บริการแล้ววันนี้กับทุกภาคธุรกิจ

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

เจซีแอนด์โค” ร่วมมือ “ฮาห์ม พาร์ทเนอร์” เปิดกลยุทธ์เสริมแกร่ง แบรนด์เกาหลีสู่ไทยและตลาด APAC

รู้จัก “One Asia Communications” การรวมตัวจาก บ.พีอาร์กว่า 10 ชาติในเอเชีย เสริมแกร่งงานสื่อสารข้ามประเทศ สร้างการเข้าถึงตลาด APAC ได้อย่างไร้รอยต่อ...

Responsive image

ส.อ.ท. จับมือ ม.มหิดล ลงนามความร่วมมือ ดันเกษตรอัจฉริยะ โครงการ SAI

สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และมหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมลงนามในข้อตกลงความร่วมมือ “โครงการนวัตกรรมต้นแบบ Smart Agriculture Industry (SAI) เพื่อการเรียนรู้และบ่มเพาะแนวทางเกษตรอ...

Responsive image

Grab เปิดตัว GrabExecutive หลังบริการเรียกรถพรีเมียมโต 50% พร้อมดึง VATANIKA ดีไซน์ชุดเครื่องแบบคนขับ

แกร็บเปิดตัว GrabExecutive บริการเรียกรถหรูระดับพรีเมียม โตแรง 50% เจาะตลาดนักธุรกิจ-นักท่องเที่ยวไฮเอนด์ พร้อมบริการสุดเอ็กซ์คลูซีฟ รถหรู-คนขับมืออาชีพ-ดีไซน์ยูนิฟอร์มโดย VATANIKA...