Microsoft ประกาศสนับสนุนโครงการห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ หวังพัฒนาศักยภาพเยาวชนไทยยุค AI

Microsoft ประกาศสนับสนุนโครงการพัฒนาระบบห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ หนึ่งในโครงการเสริมศักยภาพเยาวชนไทยในยุค AI  

เปิดโอกาสในการสร้างองค์ความรู้บนโลกดิจิทัลให้เยาวชนไทยต้อนรับวันเด็กแห่งชาติปี 2562

Microsoft (thailand) Ltd. มุ่งเป็นกำลังสำคัญให้เยาวชนและคนไทยทุกคนพัฒนาองค์ความรู้ดิจิทัล ประกาศสนับสนุนโครงการพัฒนาระบบห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (National E-Library) ครั้งแรกในประเทศไทยกับการพัฒนาระบบห้องสมุดออนไลน์ โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ด้วยความร่วมมือกับสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวง และสำนักงานหอสมุดแห่งชาติ ตอกย้ำพันธกิจสำคัญมุ่งสร้างความร่วมมือเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน สร้างคนไทยคุณภาพด้วยทักษะด้านดิจิทัล ตั้งเป้าส่งเสริมเยาวชนทุกคนให้ได้รับโอกาสในการเรียนรู้ ตั้งแต่การมอบพื้นฐานองค์ความรู้ การเรียนเขียนโค้ดสำหรับเยาวชนและครูทั่วประเทศ ไปจนถึงการเขียนซอฟต์แวร์เพื่อต่อยอดไปสู่การเป็นนวตกรในอนาคต เพื่อให้ประเทศไทยสามารถก้าวข้ามขีดจำกัดในยุคเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลได้สำเร็จ

ทั้งนี้โครงการพัฒนาระบบห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ คือ โครงการที่รวบรวมคลังหนังสือเข้ามาไว้บนแพลตฟอร์มออนไลน์บนเว็บไซต์ www.nel.go.th ด้วยความตั้งใจในการพัฒนาคลังองค์ความรู้ดิจิทัลและบทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ภายในประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่ออำนวยความสะดวกทุกคนในการเข้าใช้งานและเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ โดยจะแบ่งออกเป็นหมวดหมู่อีบุ๊ค อีแมกกาซีน วีดีโอคลิป เอกสารอิเล็กทรอนิกส์ และ ฐานข้อมูลออนไลน์ ที่สามารถค้นหาผ่านระบบสืบค้น ISBN ที่ได้มาตรฐานของสำนักงานหอสมุดแห่งชาติ พร้อมทั้งมีแผนงานที่จะขยายสู่รูปแบบแอปพลิเคชันภายใน 3 เดือนข้างหน้า เป็นแพลตฟอร์มที่พัฒนาเพื่อทุกคน โดยตั้งเป้าเริ่มต้นจากกลุ่มเยาวชนซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาศักยภาพของประเทศชาติ

Microsoft (thailand) สนับสนุนโครงการพัฒนาระบบห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (National E-Library) 3 ฟีเจอร์หลัก ได้แก่

  1. ห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ – วางระบบ พัฒนาแอปพลิเคชัน และดูแลระบบการทำงานหลังบ้านทั้งหมด ที่รวมถึงการประมวลผลสรุปรายงานการใช้งาน
  2. Chatbot – ระบบการค้นหาหนังสือด้วย AI เพียงใส่ชื่อหนังสือ พร้อมทั้งถามตอบในเรื่องที่ต้องการ เพื่อให้ผู้ที่เข้ามาค้นหาหนังสือในเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันได้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น
  3. ระบบการเรียนออนไลน์ (E-Learning) การแนะนำหลักสูตรการเรียนที่น่าสนใจ สร้างบทเรียน จัดตารางการเรียน การอบรมแบบวิดีโอออนไลน์ เพื่อช่วยให้เยาวชนสามารถใช้เทคโนโลยีเข้ามาเสริมศักยภาพการเรียนรู้ผ่านโลกดิจิทัล

 คุณปวิช ใจชื่น ผู้อำนวยการฝ่ายภาครัฐและการศึกษา Microsoft (thailand) Ltd.  กล่าวว่า ไมโครซอฟท์เห็นความสำคัญของการศึกษาที่ต้องปรับเปลี่ยนตามความเปลี่ยนแปลงของโลกดิจิทัล เราจึงทำงานร่วมกับรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดเพื่อสนับสนุนเป้าหมายของประเทศไทยในการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยความเชื่อว่าแพลตฟอร์มที่ทันสมัยจะช่วยส่งเสริมการศึกษาของเยาวชนไทยได้ดียิ่งขึ้น และทำให้ประเทศไทยก้าวข้ามขีดจำกัดในยุคเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลได้สำเร็จ และเราจะยังคงสานต่อความมุ่งมั่นเพื่อช่วยต่อยอดในการส่งเสริมการเรียนรู้ต่อไป โดยเฉพาะในยุคที่ AI เข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้นนี้

ทั้งนี้ ข้อมูลจากกรมการจัดหางานเผยว่าช่วงอายุที่มีผู้ว่างงานมากที่สุด คือ 20-24 ปี ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ผู้ว่างงานคือแรงงานกลุ่มที่เพิ่งจบการศึกษา โดยเฉพาะในระดับอุดมศึกษา สะท้อนให้เห็นว่าผู้สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีส่วนใหญ่ยังขาดคุณสมบัติตามที่ตลาดแรงงานต้องการ ดังนั้นเพื่อให้แน่ใจว่าเยาวชนไทยจะมีทักษะที่พร้อมเสริมประสิทธิภาพในการทำงานยุคดิจิทัลได้ นอกจากโครงการพัฒนาระบบห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย ได้ร่วมมือกับภาครัฐและองค์กรไม่แสวงผลกำไรในการจัดกิจกรรมเพื่อเตรียมพร้อมเยาวชนไทยด้วยการฝึกอบรมให้มีทักษะด้านดิจิทัล โดยมุ่งเน้นไปที่ทักษะด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะ ซึ่งช่วยเสริมสร้างทักษะการแก้ไขปัญหาและความคิดสร้างสรรค์ได้เป็นอย่างดี ดังต่อไปนี้

กิจกรรม Hour of Code เป็นหนึ่งในหลากหลายโครงการของ Microsoft (thailand) ที่จัดขึ้นเพื่อสนับสนุนพันธกิจหลักของบริษัทฯ ในการนำประเทศไทยให้ก้าวสู่ยุค ประเทศไทย 4.0อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการพัฒนาและส่งเสริมทักษะและความรู้ด้านดิจิทัล เป็นแคมเปญที่ Microsoft จัดขึ้นทุกปี ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อจุดประกายเยาวชนให้หันมาสนใจเรียนวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ และเตรียมตัวให้พร้อมกับโลกยุคดิจิทัล สำหรับประเทศไทย กิจกรรม Hour of Code Thailand เมื่อเดือนธันวาคม 2018 นับเป็นการจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 มีผู้เข้าร่วมโครงการกว่า 5,000 คน ทั้งนักเรียน คุณครู ผู้ฝึกอบรมในโรงเรียน และผู้พิการจากองค์กรไม่แสวงผลกำไรต่างๆ ที่มีความสนใจเรียนรู้ทักษะการเขียนโค้ด เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการสร้างสรรค์เทคโนโลยี เพื่อเป็นรากฐานในการพัฒนาบุคลากรคุณภาพอันแข็งแกร่งของประเทศในอนาคต

การแข่งขัน “Smart Living with Micro:bit” ภายใต้แนวคิด Smart Living ด้วยความร่วมมือกับ Siri Venture Co., Ltd. เป็นโครงการที่เปิดรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาตอนปลายไปจนถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายหรือระดับอาชีวศึกษา ให้เข้ามาสร้างสรรค์แนวคิดที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวันและยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น ผ่านการพัฒนาโครงการด้วยการเขียนโค้ดสำหรับอุปกรณ์แผงวงจร micro:bit เพื่อสนับสนุนเยาวชนไทยหันมาสนใจเรียนรู้และประกอบอาชีพในสาขาวิชาสะเต็มศึกษามากขึ้น และเตรียมพร้อมสู่ความสำเร็จในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล เป็นโครงการที่จะเข้ามาช่วยพัฒนาให้เยาวชนปรับใช้ MakeCode: Micro:bit มาต่อยอดเขียนโค้ดของตนเองได้

 

การแข่งขัน ไมโครซอฟท์ อิมเมจิ้นคัพ เป็นโครงการทีเปิดโอกาสให้นักเรียนและนักศึกษาในประเทศไทย ได้คิดค้นโซลูชั่นประเภทคลาวด์เพื่อใช้ในการเปลี่ยนแปลงโลกไปในทางที่ดียิ่งขึ้น สนับสนุนผู้เข้าแข่งขันด้วยการเพิ่มโอกาสในการเสริมสร้างทักษะด้านการพัฒนาคลาวด์ให้กับนักเรียนและนักศึกษา และให้ผู้เข้าแข่งขันนำเสนอแนวคิดสร้างสรรค์และโครงงาน เพื่อลุ้นโอกาสในการชนะรางวัลเงินสด เครดิต Azure และยังได้รับคำแนะนำที่ช่วยยกระดับแนวคิดของพวกเขาไปอีกขั้นด้วย สำหรับประเทศไทย ได้จัดอย่างต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 16 แล้ว และล่าสุดทีม BeeConnex จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ผู้คว้ารางวัลชนะเลิศได้เข้ารับถ้วยรางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเมื่อเดือนธันวาคม 2018 ที่ผ่านมา

โครงการ Thailand Innovative Teacher เวทีนำเสนอผลงานวิชาการที่ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการสอนสำหรับคุณครูไทย ตั้งแต่ระดับอนุบาล ประถมศึกษา มัธยมศึกษา และอาชีวศึกษา โดยในปี 2019 นี้ นับเป็นการจัดอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่15 มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นให้ครูไทยนำเทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการเรียนการสอน พร้อมทั้งพัฒนาผลงานของตัวเอง เพื่อให้มีประโยชน์ต่อวงการศึกษาไทยมากยิ่งขึ้น โดย Microsoft เข้ามาสนับสนุนด้านนวัตกรรมเพื่อการเรียนการสอนอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งในแต่ละปีมีครูผู้เข้าร่วมโครงการไม่น้อยกว่า 500 คน โดยในปีนี้ผู้ชนะเลิศระดับประเทศจะได้มีโอกาสคัดเลือกเข้าร่วมการประชุมครูและผู้บริหารทางการศึกษาทั่วโลก “Microsoft Partners in Learning Global Forum”อีกด้วย

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

เจซีแอนด์โค” ร่วมมือ “ฮาห์ม พาร์ทเนอร์” เปิดกลยุทธ์เสริมแกร่ง แบรนด์เกาหลีสู่ไทยและตลาด APAC

รู้จัก “One Asia Communications” การรวมตัวจาก บ.พีอาร์กว่า 10 ชาติในเอเชีย เสริมแกร่งงานสื่อสารข้ามประเทศ สร้างการเข้าถึงตลาด APAC ได้อย่างไร้รอยต่อ...

Responsive image

ส.อ.ท. จับมือ ม.มหิดล ลงนามความร่วมมือ ดันเกษตรอัจฉริยะ โครงการ SAI

สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และมหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมลงนามในข้อตกลงความร่วมมือ “โครงการนวัตกรรมต้นแบบ Smart Agriculture Industry (SAI) เพื่อการเรียนรู้และบ่มเพาะแนวทางเกษตรอ...

Responsive image

Grab เปิดตัว GrabExecutive หลังบริการเรียกรถพรีเมียมโต 50% พร้อมดึง VATANIKA ดีไซน์ชุดเครื่องแบบคนขับ

แกร็บเปิดตัว GrabExecutive บริการเรียกรถหรูระดับพรีเมียม โตแรง 50% เจาะตลาดนักธุรกิจ-นักท่องเที่ยวไฮเอนด์ พร้อมบริการสุดเอ็กซ์คลูซีฟ รถหรู-คนขับมืออาชีพ-ดีไซน์ยูนิฟอร์มโดย VATANIKA...