เจ้าพ่อมอเตอร์โชว์ ทุ่มเงินกว่า 250 ล้านบาท แตกไลน์ธุรกิจเข้าลงทุนโรงไฟฟ้าขยะ

‘บมจ.กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล’ หรือ GPI ผู้จัดงาน motor show เตรียมเข้าลงทุนธุรกิจโรงไฟฟ้า หลังบอร์ดอนุมัติใช้งบลงทุน 250 ล้านบาท เข้าถือหุ้น 25.45% ในบริษัท ทรูเอ็นเนอร์จี จำกัด เพื่อลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงจากขยะ ในจังหวัดนครสวรรค์ กำลังการผลิตติดตั้ง 9 MW ที่มีสัญญาจำหน่ายไฟฟ้าแก่ กฟภ. และได้รับ Adder 3.50 บาทต่อหน่วยเป็นระยะเวลา 7 ปีนับจากวันที่เริ่มต้นจำหน่ายไฟฟ้า เพิ่มความมั่นคงจากรายได้ประจำ คาดเริ่มผลิตไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายเชิงพาณิชย์ช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ 

ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ GPI ผู้นำสร้างสรรค์การจัดกิจกรรมให้บริการข่าวสาร ข้อมูล สาระ เพื่อสร้างประสบการณ์ และความบันเทิงที่
น่าประทับใจตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ยานยนต์ เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้มองโอกาสขยายธุรกิจใหม่ๆ ที่จะเพิ่มความมั่นคงแก่ผลการดำเนินงานในอนาคต ล่าสุดเมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทฯ มีมติอนุมัติเข้าซื้อหุ้น 25.45% ในบริษัท ทรูเอ็นเนอร์จี จำกัด ซึ่งเป็นผู้ดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้า เพื่อเข้าลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงจากขยะ ในอำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์ กำลังการผลิตติดตั้ง 9 เมกะวัตต์ (MW) โดยใช้งบลงทุน 250 ล้านบาท ซึ่งมาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงานของบริษัทฯ

การลงทุนดังกล่าวถือเป็นการขยายธุรกิจครั้งสำคัญของบริษัทฯ โดยมองว่าโครงการโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงจากขยะเป็นธุรกิจที่มีรายได้มั่นคงจากสัญญาการจำหน่ายไฟฟ้า ขณะเดียวกันบริษัทฯ จะได้รับสิทธิ์เป็นกรรมการในบริษัท ทรูเอ็นเนอร์จี จำกัด ส่วนทรูเอ็นเนอร์จีจะรับผิดชอบการบริหารโรงไฟฟ้าและการจัดหาขยะชุมชนเพื่อนำมาแปรรูปเป็นเชื้อเพลิง RDF (Refuse Derived Fuel) เพื่อผลิตไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งปัจจุบันมีแหล่งขยะเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตกระแสไฟฟ้าเป็นที่เรียบร้อย 

นายพีระพงศ์ เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ GPI กล่าวว่าปัจจุบันโครงการโรงไฟฟ้าดังกล่าวมีความคืบหน้าใกล้แล้วเสร็จ คาดว่าจะเริ่มผลิตไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายเชิงพาณิชย์ในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ โดยจะได้รับ Adder หรือส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้าในอัตรา 3.50 บาทต่อหน่วย (Kwh) เพิ่มจากค่าไฟฐานเป็นระยะเวลา 7 ปีนับจากวันที่เริ่มต้นจำหน่ายไฟฟ้า

นอกจากนี้บริษัท ทรูเอ็นเนอร์จี จำกัด ได้ทำสัญญารับกำจัดขยะโดยวิธีคัดแยกกับเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ มีอายุสัญญา 25 ปี (นับจาก 12 พฤศจิกายน 2558) เพื่อเพิ่มความมั่นคงด้านเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้า จากการประเมินปริมาณขยะจากบ่อฝังกลบของเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ พบว่ามีปริมาณขยะจากบ่อฝังกลบ 3 แห่งรวมประมาณ 5 แสนตัน ในจำนวนนี้ประมาณ 70% สามารถนำมาแปรรูปเป็นเชื้อเพลิง RDF ซึ่งเมื่อรวมกับปริมาณขยะที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอนาคต มั่นใจว่าจะมีปริมาณขยะเพียงพอต่อการแปรรูปเป็นเชื้อเพลิง RDF ตลอดอายุสัญญาจำหน่ายไฟฟ้า นอกจากนี้ทรูเอ็นเนอร์จีวางแผนจัดหาแหล่งขยะสำรองโดยประสานงานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดนครสวรรค์และพื้นที่ใกล้เคียง เช่น เทศบาลตำบลท่าตะโก เทศบาลเมืองตาคลี ฯลฯ รวมถึงได้เจรจากับภาคเอกชนเพื่อทำสัญญาซื้อขายเชื้อเพลิง RDF เพิ่มเติม

ขณะเดียวกัน โรงไฟฟ้าดังกล่าวได้มีมาตรการป้องกันและลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและชุมชนที่สอดคล้องกับเงื่อนไขและข้อกำหนดตามประมวลหลักการปฏิบัติ หรือ Code of Practice (COP) เพื่อให้ความมั่นใจแก่ผู้พักอาศัยในบริเวณใกล้เคียง อาทิ การออกแบบอาคารเป็นระบบปิด, ติดตั้งปล่องระบายมลพิษทางอากาศที่มีความสูงตามหลักเกณฑ์ Good Engineering Practice, มาตรการควบคุมการปล่อยสารมลพิษตามเกณฑ์มาตรฐาน, ติดตั้งเครื่องตรวจวัดคุณภาพอากาศจากปล่องระบายมลพิษแบบต่อเนื่องและตรวจวัดคุณภาพอากาศปีละ 2 ครั้ง, ควบคุมคุณสมบัติเชื้อเพลิง RDF ได้ตามมาตรฐาน, ตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อมด้านอื่นๆ ฯลฯ

“ประเมินว่าการลงทุนครั้งนี้จะใช้ระยะเวลาคืนทุนประมาณ 5 ปี ประเมินอัตราผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ (Economic Internal Rate of Return: EIRR) ที่ 11% ต่อปี ถือว่าค่อนข้างเร็ว ซึ่งจะส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานอย่างสม่ำเสมอ จากปัจจุบันที่มีแหล่งรายได้จากธุรกิจจัดงานแสดงสินค้าด้านยานยนต์และกิจกรรมส่งเสริมการตลาด ธุรกิจงานพิมพ์ และธุรกิจสื่อ” นายพีระพงศ์ กล่าว


ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

เจซีแอนด์โค” ร่วมมือ “ฮาห์ม พาร์ทเนอร์” เปิดกลยุทธ์เสริมแกร่ง แบรนด์เกาหลีสู่ไทยและตลาด APAC

รู้จัก “One Asia Communications” การรวมตัวจาก บ.พีอาร์กว่า 10 ชาติในเอเชีย เสริมแกร่งงานสื่อสารข้ามประเทศ สร้างการเข้าถึงตลาด APAC ได้อย่างไร้รอยต่อ...

Responsive image

ส.อ.ท. จับมือ ม.มหิดล ลงนามความร่วมมือ ดันเกษตรอัจฉริยะ โครงการ SAI

สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และมหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมลงนามในข้อตกลงความร่วมมือ “โครงการนวัตกรรมต้นแบบ Smart Agriculture Industry (SAI) เพื่อการเรียนรู้และบ่มเพาะแนวทางเกษตรอ...

Responsive image

Grab เปิดตัว GrabExecutive หลังบริการเรียกรถพรีเมียมโต 50% พร้อมดึง VATANIKA ดีไซน์ชุดเครื่องแบบคนขับ

แกร็บเปิดตัว GrabExecutive บริการเรียกรถหรูระดับพรีเมียม โตแรง 50% เจาะตลาดนักธุรกิจ-นักท่องเที่ยวไฮเอนด์ พร้อมบริการสุดเอ็กซ์คลูซีฟ รถหรู-คนขับมืออาชีพ-ดีไซน์ยูนิฟอร์มโดย VATANIKA...