โอสถสภา โชว์กำไรสุทธิไตรมาส 2/63 ทำได้ 804 ล้านบาท เติบโต 13.2% พร้อมอนุมัติปันผล 0.45 บาท

‘บมจ.โอสถสภา (OSP)’ โชว์ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2563 ทำกำไรสุทธิ 804 ล้านบาท จากรายได้รวมจากการขาย 5,909 ล้านบาท เครื่องดื่มบำรุงกำลังคว้าส่วนแบ่งเกินคาดรวม 55.6% สวนกระแสปัจจัยลบโควิด-19 กลุ่มฟังก์ชันนอลดริงก์ยังเติบโตได้สวย เครื่องดื่มวิตามินซีแบรนด์ซี-วิตทำสถิติยอดขายสูงสุด 99 ล้านขวดรับเทรนด์สุขภาพ วางกลยุทธ์เติบโตต่อในช่วงครึ่งปีหลัง ด้วยการส่ง ‘ซี-วิต’ รุกตลาดทั้งในและต่างประเทศ และเปิดสายการผลิตโรงงานเครื่องดื่มในเมียนมาร์ พร้อมตอบแทนผู้ถือหุ้นโดยประกาศอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตรา 0.45 บาทต่อหุ้น

คุณธนา ไชยประสิทธิ์ รักษาการ CEO บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP  ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำของประเทศ เปิดเผยว่า แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นและกำลังซื้อของผู้บริโภค ตลอดจนพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป บริษัทฯ มีจุดแข็งจากการมีพอร์ตสินค้าที่หลากหลายและศักยภาพในการขับเคลื่อนนวัตกรรมใหม่ๆ ตอบโจทย์ความต้องการใหม่ๆ ได้อย่างตรงจุดและทันต่อสถานการณ์ แม้รายได้รวมจากการขายลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา การดำเนินงานที่ยืดหยุ่นและความสามารถในการควบคุมต้นทุนการดำเนินงานและค่าใช้จ่าย ทำให้กำไรยังคงเติบโตได้ดี โดยมีกำไรสุทธิในไตรมาส 2/2563 (เมษายน-มิถุนายน 2563) อยู่ที่ 804 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.2% 

แม้ภาพรวมของตลาดเครื่องดื่มบำรุงกำลังปรับตัวลดลงมากกว่า 10% บริษัทฯ สามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดของกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มบำรุงกำลังสูงสุดในรอบ 3 ปี เป็น 55.6% เนื่องจากผู้บริโภคหันมาหาแบรนด์ที่ตนเชื่อมั่นในช่วงที่ต้องใช้จ่ายอย่างรอบคอบ โดย เอ็ม-150 ยังคงครองความเป็นผู้นำตลาด สำหรับเครื่องดื่มกลุ่มฟังก์ชันนอลดริงก์ (Functional Drink) นั้น ยังคงเติบโตรับกระแสการดูแลสุขภาพของผู้บริโภค โดยเฉพาะเครื่องดื่มวิตามินซีแบรนด์ ซี-วิต นั้นทำยอดขายสูงสุดถึง 99 ล้านขวด จากการเพิ่มกำลังการผลิตได้ในไตรมาส 2 ซึ่งเร็วขึ้นจากเดิมที่คาดว่าจะสร้างเสร็จในไตรมาส 3 ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่ง 33.9% นอกจากนี้ สลิมม่า เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของใยอาหาร แอลคาร์นิทีน และวิตามินบี ช่วยลดการดูดซึมและเผาผลาญไขมันมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว จึงได้ขยายเข้าสู่ช่องทางจำหน่ายทางโมเดิร์นเทรด หลังจากได้รับกระแสการตอบรับเป็นอย่างดี หลังเปิดตัวผ่านช่องทางออนไลน์เมื่อต้นปีที่ผ่านมา

คุณธนา กล่าวว่า โอสถสภาตระหนักดีว่า ในทุกวิกฤตจะมีโอกาสซ่อนอยู่ ในสถานการณ์โควิด-19 นี้ ไม่เพียงแต่มีกระแสความต้องการใหม่ๆ เกิดขึ้น โดยเฉพาะเทรนด์การดูแลสุขภาพ  ยังมีกระแสการหันเข้าหาแบรนด์ที่ตนมีความเชื่อมั่น บริษัทฯ จึงเน้นสร้างโอกาสธุรกิจใหม่ๆ ขณะเดียวกัน ยังคงเดินหน้าขยายการผลิตเพื่อรองรับความต้องการที่เติบโตทั้งในประเทศและในภูมิภาค

เพื่อตอบสนองเทรนด์สุขภาพและสุขอนามัยที่ดี โอสถสภาได้ออกสินค้าใหม่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคลหลายชนิด อาทิ วิปโฟมล้างมือออร์แกนิค เนื้อโฟม อ่อนนุ่ม และสเปรย์ทำความสะอาดพื้นผิวและของใช้เด็ก ภายใต้แบรนด์เบบี้มายด์ เฮลตี้พลัส และสเปรย์แอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือภายใต้แบรนด์ ทเวลฟ์ พลัส นอกจากนี้ ยังได้พัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเช่นกัน ได้แก่ เครื่องดื่มบำรุงกำลังฉลามสูตรผสมวิตามินซี และต่อยอดผลิตภัณฑ์ซี-วิต ขยายจากรูปแบบเครื่องดื่มสู่รูปแบบเจลลี่ สามารถทานเป็นของว่างรองท้องระหว่างมื้อ 

นอกจากนี้ โรงงานผลิตเครื่องดื่มในประเทศเมียนมาร์ได้เริ่มเดินเครื่องจักรเชิงพาณิชย์เมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ช่วยส่งเสริมศักยภาพการทำตลาดและอัตราการทำกำไรต่อหน่วยที่ดีขึ้น ส่วนการขยายโรงงานผลิตเครื่องดื่มในจังหวัดพระนครศรีอยุธยานั้น ช่วยเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นมากกว่า 15% และสนับสนุนแผนการส่งออกผลิตภัณฑ์แบรนด์ ซี-วิต ไปยังประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอีกด้วย ความพร้อมของกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นนี้ และผลจากโครงการ Fit Fast Firm ที่คาดว่าจะบริหารค่าใช้จ่ายและลดต้นทุนการดำเนินงานได้มากกว่าแผน เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสร้างการเติบโตระดับสองหลักในช่วงครึ่งปีหลังตามแผนที่วางไว้ 

ทั้งนี้ จากผลประกอบการที่เป็นไปตามแผน ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากงวดผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2563 ในอัตรา 0.45 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงิน 1,352 ล้านบาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นที่มีรายชื่อ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับเงินปันผลในวันที่ 28 สิงหาคม 2563 และจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 11 กันยายน 2563 

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

เจซีแอนด์โค” ร่วมมือ “ฮาห์ม พาร์ทเนอร์” เปิดกลยุทธ์เสริมแกร่ง แบรนด์เกาหลีสู่ไทยและตลาด APAC

รู้จัก “One Asia Communications” การรวมตัวจาก บ.พีอาร์กว่า 10 ชาติในเอเชีย เสริมแกร่งงานสื่อสารข้ามประเทศ สร้างการเข้าถึงตลาด APAC ได้อย่างไร้รอยต่อ...

Responsive image

ส.อ.ท. จับมือ ม.มหิดล ลงนามความร่วมมือ ดันเกษตรอัจฉริยะ โครงการ SAI

สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และมหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมลงนามในข้อตกลงความร่วมมือ “โครงการนวัตกรรมต้นแบบ Smart Agriculture Industry (SAI) เพื่อการเรียนรู้และบ่มเพาะแนวทางเกษตรอ...

Responsive image

Grab เปิดตัว GrabExecutive หลังบริการเรียกรถพรีเมียมโต 50% พร้อมดึง VATANIKA ดีไซน์ชุดเครื่องแบบคนขับ

แกร็บเปิดตัว GrabExecutive บริการเรียกรถหรูระดับพรีเมียม โตแรง 50% เจาะตลาดนักธุรกิจ-นักท่องเที่ยวไฮเอนด์ พร้อมบริการสุดเอ็กซ์คลูซีฟ รถหรู-คนขับมืออาชีพ-ดีไซน์ยูนิฟอร์มโดย VATANIKA...