Tencent เผยความสำเร็จในการนำเทคโนโลยี AI ช่วยเหลือการทำงานบุคลากรทางการแพทย์

การแพร่ระบาดครั้งใหญ่ของโรค COVID-19 ในครั้งนี้ได้ส่งผลกระทบต่อกว่า 210 ประเทศทั่วโลก ที่มีผู้ติดเชื้อมากกว่าสี่ล้านคน และกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลกอย่างรุนแรงมีผลทำให้หน่วยงานทางการแพทย์ต่าง ๆ ต้องอยู่ภายใต้แรงกดดัน ในการรักษาผู้ป่วยซึ่งหลั่งไหลเข้ามาจำนวนมาก จึงต้องแข่งขันกับเวลาเพื่อเร่งการรักษา ช่วยชีวิต และป้องกันการแพร่ขยายไวรัสระหว่างผู้คน ซึ่งทำให้มีหลายครั้ง พวกเขาต้องเสียสละ และยอมเสี่ยงชีวิตตนเองเพื่อรักษาคนไข้ แม้ในบางครั้งยังต้องทำการรักษาโดยปราศจากอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE)

การปรับใช้เทคโนโลยีได้อย่างทันท่วงที จึงเข้ามามีส่วนช่วยในการต่อสู้ครั้งนี้ โดยการช่วยทำการทดสอบเคสต้องสงสัย อำนวยความสะดวกในการแยกวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ซึ่งมีความต้องการมากที่สุดได้ และยังสามารถจัดการดูแลสุขภาพระยะไกลในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการระบาดต่ำ

ความก้าวหน้าของเทคโนโลยี AI ในทางการแพทย์

เทคโนโลยี AI ในทางการแพทย์ของ Tencent ได้เข้ามาช่วยเร่งผลวินิจฉัยผู้ป่วย COVID-19 เนื่องจากแพทย์ในด่านหน้ากำลังเผชิญกับแรงกดดันที่เพิ่มขึ้น เพราะไม่สามารถรองรับความต้องการใช้เครื่องสแกนเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (ซีทีแสกน - CT Scan) ได้อย่างเพียงพอจากการที่มีผู้ป่วยจำนวนมาก ในขณะที่มีเครื่องซีทีสแกนจำนวนจำกัด

โดยทั่วไป การทำซีทีสแกนทรวงอกจะสร้างภาพได้ประมาณ 300 ภาพ ซึ่งแพทย์ต้องใช้เวลาประมาณ 5 – 15 นาทีในการตรวจดูด้วยสายตา อย่างไรก็ตาม แพลตฟอร์มการจับภาพ AI และวินิจฉัยของ Tencent AMIS สามารถจดจำภาพได้ในเวลาเพียง 2 วินาทีหลังจากการสแกนแต่ละภาพ และประมวลผลการวินิจฉัยเพื่อให้แพทย์ใช้ในการอ้างอิงการรักษาได้ในเวลาเพียงหนึ่งนาที แพลตฟอร์มนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการวินิจฉัย และสามารถทำการรักษาผู้ป่วยได้ทันท่วงที โดย Tencent ได้ส่งมอบระบบดังกล่าว เพื่อนำไปใช้ในโรงพยาบาลในประเทศจีน รวมถึงวิทยาเขตในภาคตะวันตกของโรงพยาบาลหวู่ฮั่น โรงพยาบาลเคลื่อนที่หลี่ไห่ และโรงพยาบาลประชาชนของฮงหู

การรักษาพยาบาลที่มีความปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยีหุ่นยนต์

โรค COVID-19 เป็นไวรัสที่สามารถติดต่อได้โดยง่าย จึงจำเป็นต้องเว้นระยะห่างทางสังคม อย่างไรก็ตาม บุคลาการทางการแพทย์ไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยได้ ด้วยเหตุนี้เพื่อลดการสัมผัสใกล้ชิดและความเสี่ยงติดเชื้อ เทคโนโลยีหุ่นยนต์จึงได้ถูกนำมาใช้เพื่อทำหน้าที่ประจำวันในการรักษาพยาบาลผู้ป่วย อย่างเช่นที่โรงพยาบาลอเล็กซานดราในประเทศสิงคโปร์ ได้มีการนำหุ่นยนต์มาใช้เพื่อช่วยการทำงานของแพทย์และพยาบาล หุ่นยนต์ ซึ่งไม่เพียงแค่ทำหน้าที่ส่งอาหารและยาให้แก่ผู้ป่วยเท่านั้น แต่ยังช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถสื่อสารผ่านหน้าจอกับผู้ป่วยได้โดยตรง ผู้ป่วยสามารถสอบถามคำถามทั่วไปกับหุ่นยนต์ ทำให้สามารถรักษาพยาบาลจากระยะไกลได้อีกด้วย

ในส่วนของอุปกรณ์สวมใส่ ก็ถือเป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญในการต่อสู้กับโรค COVID-19 เพราะสามารถช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์ ทำการตรวจรักษาผู้ป่วยแบบสัมผัสตัวน้อยลงได้ โดยศูนย์คลินิกสุขภาพเซี่ยงไฮ้ ได้ใช้เซนเซอร์แบบตรวจวัดอุณหภูมิต่อเนื่อง ในการลดการแพร่กระจายของโรค COVID-19 โดยที่จะติดตัวเซนเซอร์ไว้กับตัวผู้ป่วย และส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์ไปยังแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ3

และในช่วงต้นของเดือนเมษายนที่ผ่านมา  โดยการร่วมมือผ่านทางองค์การอนามัยโลก Tencent ได้ประดิษฐ์เครื่องช่วยคัดแยกโรค COVID-19 ด้วยตัวเอง (COVID-19 self-triage assistant) ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่มีพร้อมใน Github สำหรับนักพัฒนาทั่วโลก เป็นเครื่องช่วยคัดแยกโรคที่สามารถประเมินโรคเบื้องต้นได้ด้วยตนเอง และให้คำแนะนำในการป้องกันการสัมผัสกับไวรัส โดยการแปลคำแนะนำทางการแพทย์แบบมืออาชีพให้เป็นข้อความที่สามารถเข้าใจได้ง่าย ซึ่งเทคโนโลยีนี้จะช่วยลดความหวาดกลัว และความตื่นตระหนกที่เกิดขึ้นจากช่องว่างทางความรู้เกี่ยวกับโรคไวรัสโคโรนา

การส่งเสริมการดูแลสุขภาพผ่านเทคโนโลยีคลาวด์

Tencent Cloud ยังเสนอบริการอื่น ๆ อาทิ แอปพลิเคชันการถ่ายทอดสด อย่าง Tencent Real-Time Communication – TRTC รวมถึงฐานข้อมูล, และGlobal Application Acceleration Platform – GAAP และโซลูชันการแปลซับไตเติลของ AI (AI Transfy) ที่ช่วยให้หน่วยงานทางการแพทย์และโรงพยาบาลต่าง ๆ สามารถตั้งค่าการถ่ายทอดสด เพื่อให้คำปรึกษาและการตรวจรักษาผู้ป่วยที่อยู่ภายใต้การกักตัวได้ด้วยตัวเองอย่างรวดเร็ว

ในช่วงของวิกฤติการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ในปัจจุบัน การเพิ่มขึ้นของเทคโนโลยีด้านสุขภาพแบบดิจิทัล ช่วยเพิ่มโอกาสในการป้องกัน และเป็นแรงสนับสนุนให้กับบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าในการต่อสู้กับโรค COVID-19 ได้ดีมากขึ้น เครื่องมือและเทคโนโลยีที่พร้อมใช้งานเหล่านี้ ยังช่วยสร้างโอกาสในการพัฒนาความเป็นอยู่ของเราให้ดีขึ้น หลังจากการแพร่ระบาดครั้งใหญ่นี้ผ่านพ้นไปอีกด้วย

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

เจซีแอนด์โค” ร่วมมือ “ฮาห์ม พาร์ทเนอร์” เปิดกลยุทธ์เสริมแกร่ง แบรนด์เกาหลีสู่ไทยและตลาด APAC

รู้จัก “One Asia Communications” การรวมตัวจาก บ.พีอาร์กว่า 10 ชาติในเอเชีย เสริมแกร่งงานสื่อสารข้ามประเทศ สร้างการเข้าถึงตลาด APAC ได้อย่างไร้รอยต่อ...

Responsive image

ส.อ.ท. จับมือ ม.มหิดล ลงนามความร่วมมือ ดันเกษตรอัจฉริยะ โครงการ SAI

สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และมหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมลงนามในข้อตกลงความร่วมมือ “โครงการนวัตกรรมต้นแบบ Smart Agriculture Industry (SAI) เพื่อการเรียนรู้และบ่มเพาะแนวทางเกษตรอ...

Responsive image

Grab เปิดตัว GrabExecutive หลังบริการเรียกรถพรีเมียมโต 50% พร้อมดึง VATANIKA ดีไซน์ชุดเครื่องแบบคนขับ

แกร็บเปิดตัว GrabExecutive บริการเรียกรถหรูระดับพรีเมียม โตแรง 50% เจาะตลาดนักธุรกิจ-นักท่องเที่ยวไฮเอนด์ พร้อมบริการสุดเอ็กซ์คลูซีฟ รถหรู-คนขับมืออาชีพ-ดีไซน์ยูนิฟอร์มโดย VATANIKA...