Thai union เปิดแผนดำเนินธุรกิจสู่ความยั่งยืน ภายใต้กลยุทธ์ SeaChange

Thai union ออกรายงานเพื่อความยั่งยืนประจำปี ฉบับที่ 8 แสดงถึงพันธกิจระยะยาวของบริษัทต่อเรื่องความโปร่งใสในการดำเนินงานทั้งหมด และข้อมูลความก้าวหน้าตลอดระยะเวลา 5 ปีของบริษัทภายใต้กลยุทธ์ SeaChange หรือกลยุทธ์ความยั่งยืนของบริษัท

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เผยแพร่รายงานเพื่อความยั่งยืนประจำปี ฉบับที่ 8 โดยมีรายละเอียดการดำเนินงานที่ต่อเนื่องเพื่อขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกทั้งอุตสาหกรรมอาหารทะเลของโลก แม้จะมีความท้าทายในเรื่องการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 รายงานเพื่อความยั่งยืนประจำปี 2564 แสดงให้เห็นถึงพันธกิจระยะยาวของบริษัทต่อเรื่องความโปร่งใสในการดำเนินงานทั้งหมดและนำเสนอข้อมูลเชิงลึกของผลการดำเนินงานประจำปีของบริษัทเทียบกับตัวชี้วัดหลักและเป้าหมายที่ตั้งไว้ในกลยุทธ์ความยั่งยืนทั่วโลกของบริษัท หรือที่เรียกว่า กลยุทธ์ SeaChange® 

“ในปี 2563 โลกเผชิญกับความท้าทายที่ไม่เคยมีมาก่อน จากโควิด 19 ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ไม่ได้เกิดขึ้นกับการดำเนินธุรกิจเท่านั้น แต่ยังมีผลต่อการดำเนินชีวิตของผู้คนทั่วโลกอีกด้วย” นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป กล่าว “ผมมีความภูมิใจอย่างมากต่อการปรับตัวของพนักงานไทยยูเนี่ยนที่ทำให้บริษัทสามารถก้าวไปข้างหน้า และยังคงยึดมั่นที่จะดำเนินตามพันธกิจของเราอย่างต่อเนื่องเพื่อนำการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกมาสู่อุตสาหกรรมอาหารทะเลทั้งหมด”

แผนงานหลักทั้ง 4 แผนงานภายใต้กลยุทธ์ SeaChange

รายงานเพื่อความยั่งยืนปี 2564 นี้ มีรายละเอียดเกี่ยวกับงานสำคัญที่บริษัทได้ดำเนินการในช่วงระหว่างปี และความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องของแผนงานหลักทั้ง 4 แผนงานภายใต้กลยุทธ์ SeaChange® ได้แก่ แรงงานปลอดภัยและแรงงานที่ถูกกฎหมาย การจัดหาวัตถุดิบด้วยความรับผิดชอบ การดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบ และผู้คนและชุมชน

“แม้ว่า โควิด 19 จะทำให้ปี 2563 เป็นปีที่ท้าทายมากปีหนึ่ง แต่ความท้าทายนี้ก็มาพร้อมกับโอกาส ซึ่งดิฉันมีความภุมิใจอย่างมากที่เราประสบความสำเร็จในการก้าวไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของเรา ขณะเดียวกันเรายังสนับสนุนพนักงานของเราและผู้ที่ทำงานในห่วงโซ่อุปทานของเราทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง” ดร. แดเรี่ยน แมคเบน ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมกิจการองค์กรและความยั่งยืนของไทยยูเนี่ยน กล่าว “แม้จะมีข้อจำกัดจากการแพร่ระบาด แต่เรายังคงมุ่งให้ความสำคัญเรื่องความโปร่งใส การทำงานร่วมกัน และการเปลี่ยนแปลงอาหารทะเลให้ดีขึ้น ปี 2563 เป็นปีที่ครบ 5 ปีของการดำเนินกลยุทธ์ SeaChange และปีนี้เราจะประกาศเป้าหมายใหม่ที่ท้าทายที่เราจะดำเนินต่อไปในปี 2568”

นอกจากนี้ ในรายงานดังกล่าวยังนำเสนอข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับความก้าวหน้าในระยะเวลา 5 ปีของบริษัทในการทำงานให้เป็นไปตามกลยุทธ์ SeaChange® ได้แก่ พันธกิจด้านปลาทูน่า และวิธีทำงานเพื่อให้โครงการตรวจสอบแนวทางการปฏิบัติด้านแรงงานบนเรือประมง (Vessel Code of Conduct: VCoC) มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องในช่วงที่มีข้อจำกัดในเรื่องของการเดินทาง และการลดการจัดประชุมพบปะแบบตัวต่อตัวอันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ทั่วโลก

ในปี 2563 ไทยยูเนี่ยนยังคงพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นบริษัทที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น ในรายงานฉบับนี้ ไทยยูเนี่ยนได้แสดงให้เห็นความสำเร็จบางส่วนของการทำงานเช่น การเป็นผู้ผลิตอาหารรายแรกและเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยรายแรกที่เข้าร่วมโครงการ EP100 ซึ่งเป็นข้อริเริ่มเรื่องการใช้พลังงานอย่างชาญฉลาดขององค์กร Climate Group โดยมุ่งเป้าในการลดการใช้น้ำและลดของเสียฝังกลบ การทำงานเพื่อมุ่งสู่พันธกิจด้านบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน โดยมีเป้าหมายว่า ภายในปี 2568 บรรจุภัณฑ์ที่ใช้ในแบรนด์ของเราทั้งหมด 100 เปอร์เซ็นต์จะสามารถนำมาใช้ซ้ำ นำกลับมาใช้ใหม่ หรือสามารถย่อยสลายได้ และการทำงานร่วมกับองค์กรที่มีความคล้ายคลึงกันอย่างต่อเนื่องเช่น องค์การนอกภาครัฐ ภาคประชาสังคม และบริษัทอื่นๆ เพื่อหาหนทางที่ดีที่สุดในการบรรลุเป้าหมาย และยังเปิดตัวโครงการ “Tell Us” เพื่อเสริมสร้างกลไกการรับฟังเสียงของพนักงานในโรงงานแปรรูปหลักที่สำคัญของเราในประเทศไทย และการทำงานร่วมกับคู่ค้าอย่างต่อเนื่องซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันเพื่อเกิดการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง

เมื่อปีที่ผ่านมา ความพยายามด้านความยั่งยืนของไทยยูเนี่ยนยังได้รับการยอมรับด้วยการที่บริษัทได้รับรางวัล SDG Impact Award จากงาน Reuters Responsible Business Awards การได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิกในดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ เป็นเวลา 7 ปีติดต่อกันและได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในอันดับ 2 ในกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหารของโลก และการได้รับรางวัลองค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชนประเภทดีเด่น ประจำปี 2563 โดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม 

ไทยยูเนี่ยนยังคงจัดทำรายงานเพื่อความยั่งยืนให้มีมีความยั่งยืนมากขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยการจัดทำในรูปแบบดิจิทัล นำเสนอในรูปแบบของ PDF ออนไลน์ทำให้สามารถเข้าถึงผู้อ่านได้กว้างขึ้น รายงานฉบับนี้จัดทำขึ้นตามมาตรฐานการรายงานความยั่งยืนของ Global Reporting Initiative (GRI) แบบทางเลือกหลัก และแนวทางการเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับกลุ่มธุรกิจอาหาร (Food Processing Sector Supplement: FPSS)

ไทยยูเนี่ยนเข้าร่วมใน United Nations Global Compact (UNGC) และรายงานเพื่อความยั่งยืนฉบับนี้เป็นการสื่อสารความก้าวหน้าประจำปี (Communication on Progress: COP) ของไทยยูเนี่ยนต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย นอกจากนี้ยังมีการรายงานกิจกรรมสำคัญของไทยยูเนี่ยนที่มีต่อความรับผิดชอบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมภายใต้เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (United Nations Sustainable Development Goals: UN SDGs) และเป็นครั้งแรกที่มีการรวมเนื้อหาของดัชนี SDG เข้าไปด้วย




ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

เจซีแอนด์โค” ร่วมมือ “ฮาห์ม พาร์ทเนอร์” เปิดกลยุทธ์เสริมแกร่ง แบรนด์เกาหลีสู่ไทยและตลาด APAC

รู้จัก “One Asia Communications” การรวมตัวจาก บ.พีอาร์กว่า 10 ชาติในเอเชีย เสริมแกร่งงานสื่อสารข้ามประเทศ สร้างการเข้าถึงตลาด APAC ได้อย่างไร้รอยต่อ...

Responsive image

ส.อ.ท. จับมือ ม.มหิดล ลงนามความร่วมมือ ดันเกษตรอัจฉริยะ โครงการ SAI

สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และมหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมลงนามในข้อตกลงความร่วมมือ “โครงการนวัตกรรมต้นแบบ Smart Agriculture Industry (SAI) เพื่อการเรียนรู้และบ่มเพาะแนวทางเกษตรอ...

Responsive image

Grab เปิดตัว GrabExecutive หลังบริการเรียกรถพรีเมียมโต 50% พร้อมดึง VATANIKA ดีไซน์ชุดเครื่องแบบคนขับ

แกร็บเปิดตัว GrabExecutive บริการเรียกรถหรูระดับพรีเมียม โตแรง 50% เจาะตลาดนักธุรกิจ-นักท่องเที่ยวไฮเอนด์ พร้อมบริการสุดเอ็กซ์คลูซีฟ รถหรู-คนขับมืออาชีพ-ดีไซน์ยูนิฟอร์มโดย VATANIKA...