Metaverse บำบัดสุขภาพจิต

หากพูดถึง Metaverse คงได้ยินกันบ่อยมากแล้วว่า Metaverse คือโลกเสมือนที่ทุกคนสามารถติดต่อสื่อสารและมีปฏิสัมพันธ์กันผ่านตัวละคร หรือ Avatar ของเราเองได้ Metaverse เปรียบเสมือนการสร้างสภาพแวดล้อมของโลกความจริงเข้ากับเทคโนโลยี จนกลายเป็น Community โดยอาศัยเทคโนโลยี AR (Augmented Reality) และ VR (Virtual Reality) เชื่อมต่อโลกเสมือนเข้าด้วยกัน

แต่ทั้งนี้ Emerging Technology หรือ เทคโนโลยีเกิดใหม่ ได้จำกัดความไว้ว่ามันคือนวัตกรรมที่มีการพัฒนาในปัจจุบัน และอาจจะพร้อมใช้ในอีก 5-10 ปีข้างน้า เป็นเทคโนโลยีที่มีความก้าวหน้าและเติบโตอย่างรวดเร็ว และจะสร้างผลกระทบมหาศาลต่อสังคมรวมไปถึงเศรษฐกิจ นับรวมกับเทคโนโลยี Metaverse ไปด้วยเช่นกัน

ข้อมูลจาก World Economic Forum 2023 ได้เปิดเผย เทคโนโลยีโลกเสมือนสำหรับสุขภาพจิต หรือ Metaverse for Mental Health เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีเกิดใหม่ที่จะสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม เพราะแพทย์ทั่วสหรัฐอเมริกาได้พูดถึงปัญหาทางด้านสาธารณสุขอย่างหนึ่งที่เป็นเรื่องเร่งด่วนคือ “ปัญหาสุขภาพจิต” และเชื่อว่าเทคโนโลยีจะนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นวิกฤตนี้

วิกฤตของปัญหาสุขภาพจิตรุนแรงขึ้นในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อนในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ปัจจัยหลักของปัญหาสุขภาพจิตที่วิกฤตมากคือ ผู้ให้บริการด้านสุขภาพจิตมีไม่เพียงพอ ที่จะรับมือวิกฤตนี้ที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้การใช้โครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีจะเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับบุคลากรทางการแพทย์และผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิต

Metaverse for Mental Health เทคโนโลยีนี้จะถูกพัฒนาเพื่อสนับสนุนสุขภาพจิตในทุกด้าน ทั้งการป้องกัน การวินิจฉัย การบำบัด การรักษา รวมไปถึงการวิจัย ปัจจุบัน Metaverse เริ่มเข้ามามีบทบาทและประโยชน์ทางการแพทย์สำหรับสุขภาพจิตแล้ว เพราะเทคโนโลยีนี้ช่วยบรรเทาปัญหาสุขภาพจิตได้เป็นอย่างดี ยกตัวอย่างเช่น DeepWell Therapeutics ได้สร้างวิดีโอเกมเพื่อรักษาภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวล, ความร่วมมือกันระหว่าง Xbox และ Ninja Theory ที่พัฒนาวิดีโอเกมและเทคโนโลยีในการช่วยเหลือผู้ที่มีภาวะสุขภาพจิตและส่งเสริมในเรื่องของ well-being, รวมไปถึง TRIPP ที่ได้สร้าง Mindful Metaverse สำหรับการฝึกสติและสมาธิโดยเปิดการใช้งานผ่าน VR เป็น Wellness Platform ที่ได้รับการจัดอันดับ Best Innovations 200 จาก TIME เช่นกัน

สำหรับ Interface Technology จะถูกพัฒนาต่อเพื่อเชื่อมโยงสังคมและอารมณ์ของผู้ใช้งานได้ เช่น Emerge Wave-1 อุปกรณ์ตั้งโต๊ะที่ใช้คลื่น Ultrasonic ในการให้ประสบการณ์โลกเสมือนที่เหมือนจริงยิ่งขึ้นเพียงแค่สัมผัส 


และ สวมแว่น VR เชื่อมต่อ Metaverse ให้สมจริงยิ่งขึ้น และยังมี Neurable headsets ที่มีเทคโนโลยีในการวัดคลื่นสมองและปรับให้เข้ากับอารมณ์ของผู้ใช้งานได้แบบเรียลไทม์


สุดท้ายแล้วการใช้เทคโนโลยีในการบำบัดสมองโดยตรงเพื่อรักษาภาวะซึมเศร้า การใช้ Metaverse เชื่อมต่ออาจเป็นสถานการณ์ที่ win-win กับทางบุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วยที่จะได้รับประโยชน์เช่นกัน และในอนาคตก็อาจจะถูกพัฒนาให้มีความสามารถมากขึ้นเรื่อยๆ อีกด้วย


อ้างอิง

World Economic Forum 2023, TIME, Neurable


ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

คอมตัมคอมพิวติ้ง ตอนนี้ไปถึงไหนแล้ว ? สรุปความก้าวหน้าควอนตัมจากงาน NVIDIA GTC 2025

งาน NVIDIA GTC 2025 เป็นปีแรกที่มีการจัดเวทีพูดคุยเกี่ยวกับควอนตัมคอมพิวติ้งโดยเฉพาะ (Quantum Day) ซึ่ง NVIDIA ในฐานะเจ้าภาพ และผู้ขับเคลื่อนการประมวลผลแบบ Accelerated Computing จึ...

Responsive image

ญี่ปุ่น ใช้ AI และเทคโนโลยีอะไร ในการรับมือแผ่นดินไหว ?

เหตุแผ่นดินไหวในเมียนมาที่ส่งผลกระทบมาถึงประเทศไทย สร้างความตระหนักถึงความเสี่ยงด้านแผ่นดินไหวที่อาจเกิดขึ้นในประเทศ แม้ประเทศไทยจะไม่ใช่พื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง แต่เหตุการณ์ดังกล...

Responsive image

AI วาดสไตล์ Ghibli : OpenAI แอบดึงข้อมูลมาเทรนด์หรือเปล่า ประเด็นที่โลกไม่ควรมองข้าม

ฟีเจอร์ใหม่จาก ChatGPT ที่สร้างภาพสไตล์ Ghibli ทำเอาโลกอินเทอร์เน็ตสะเทือน แต่คำถามใหญ่คือ...นี่คือวิวัฒนาการของเทคโนโลยี หรือการทำลายจิตวิญญาณของศิลปะที่ Ghibli ยึดถือมาทั้งชีวิต ...