รพ.บำรุงราษฎร์เปิดตัว ReLEx SMILE ปลดล็อคทุกปัญหาของโรคตาด้วยนวัตกรรม

รศ. พญ. สุดารัตน์ ใหญ่สว่าง หัวหน้าศูนย์จักษุ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เปิดเผยว่า โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ได้ตระหนักถึงการเกิดใหม่เกี่ยวกับโรคตาที่เพิ่มขึ้นในทุกๆ ปี รวมถึงสถิติการเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยที่มีมากขึ้น ด้วยเหตุนี้การยกระดับศูนย์จักษุและพัฒนาการรักษาด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ จึงเป็นอีกหนึ่งพัธกิจสำคัญที่เราได้ทำมาตลอด เพื่อให้มีการดูแลรักษาอย่างครอบคลุมในทุกปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพตาโดยการดำเนินงานของ Eye Excellence Center โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์

pic1_resizeในแต่ละปีทางโรงพยาบาลได้จัดซื้ออุปกรณ์ใหม่ๆ เข้ามาเป็นระยะโดยแนวโน้มของเทคโนโลยีเครื่องมือทางการแพทย์ จะเน้นการรักษาผ่าตัดเปิดแผลเล็กและมีการนำเลเซอร์เข้ามาใช้ร่วมในการรักษา นวัตกรรมเหล่านี้จะช่วยให้ระยะเวลารักษาไม่นาน ผลการรักษามีความแม่นยำตามที่ต้องการมากยิ่งขึ้น โอกาสเกิดผลข้างเคียงหลังการผ่าตัดน้อยลง ผู้ป่วยหายเร็วขึ้น ระยะพักฟื้นสั้นลง ไม่ต้องนอนโรงพยาบาลซึ่งเป็นการลดค่าใช้จ่าย

ล่าสุดโรงพยาบาลได้นำเครื่อง ORA System ซึ่งเป็นนวัตกรรมในการช่วยผ่าตัดต้อกระจกให้มีความแม่นยำมากขึ้น เป็นเครื่องมือที่ช่วยเสริมในขั้นตอนการผ่าตัดต้อกระจกและฝังเลนส์เทียมโดยใช้เลเซอร์ (Femto) ให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

โดย ORA เป็นนวัตกรรมที่สามารถตรวจวัดค่าสายตาผู้ป่วยระหว่างการผ่าตัดแบบ Real-time ช่วยลดความผิดพลาดที่เกิดจากการวัดแบบมาตรฐานเหมาะกับผู้ป่วยทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ป่วยที่เคยผ่าตัดทำเลสิกมาก่อนหรือการผ่าตัดใดๆของกระจกตา เช่น กรีดกระจกตามาก่อนซึ่งการวัดแบบมาตรฐานทำได้ไม่แม่นยำเท่าการวัดด้วยเครื่อง ORA

สำหรับนวัตกรรม ReLEx SMILE เป็นเทคโนโลยีการผ่าตัดแก้ไขสายตาด้วยเลเซอร์ที่ต่อยอดมาจากเลสิกเป็นเทคนิคการผ่าตัดแก้ไขสายตาสั้นและเอียงด้วยเลเซอร์ที่มีความแม่นยำสูง มีแผลเปิดที่กระจกตาเล็กมากประมาณ 2-4 มิลลิเมตร ทำให้รบกวนเส้นประสาทบริเวณกระจกตาน้อย เป็นผลให้อาการตาแห้งและระคายเคืองตาพบได้น้อย โดยที่ค่าสายตาหลังผ่าตัดคำนวณได้อย่างแม่นยำ ทำให้มองเห็นดีขึ้นและคงที่ในเวลาไม่นานสามารถกลับไปใช้ชีวิตปกติได้อย่างคล่องตัว

การผ่าตัดรักษาภาวะสายตาสั้นและเอียงด้วยวิธี ReLEx SMILE ขณะที่เลเซอร์ทำงานเครื่องมือจะแตะที่ผิวกระจกตาและใช้แรงกดน้อย  ผู้ป่วยจึงรู้สึกสบายตาขณะผ่าตัด หลังผ่าตัดมักพบการระคายเคืองและตาแห้งน้อยเนื่องจากแผลที่กระจกตามีขนาดเล็กมากและหลังการรักษาจะได้ค่าสายตาที่มีความแม่นยำ

โดยวิธีนี้จะเหมาะกับผู้ที่ไม่อยากใส่แว่น ไม่อยากใส่คอนแทคเลนส์ และผู้ที่มีสายตาสั้นถึง 1000 (-10.00 D) และสายตาเอียง 500 (-5.00 D) โดยเบื้องต้นแพทย์จะต้องตรวจวินิจฉัยตาก่อนที่จะทำการรักษาว่าเหมาะที่จะรักษาด้วยวิธีนี้หรือไม่

เนื่องจากต้องคำนึงถึงความหนาของกระจกตา และภาวะอื่นๆ ของตาร่วมด้วย เช่น ภาวะตาแห้งหรือไม่ ผู้ที่ทำการรักษาควรมีอายุ 20 ปีขึ้นไป และมีค่าสายตาคงที่อย่างน้อย 1 ปี และต้องไม่มีโรคที่เป็นข้อห้ามในการรักษา เช่น โรคเบาหวานที่ควบคุมน้ำตาลยังไม่ดี สตรีมีครรภ์ หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ประเมินถึงความเหมาะสม”

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ชางงี สิงคโปร์ ขึ้นแท่นสนามบินดีสุดในโลก 2025 คว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 13 จาก Skytrax

สนามบินนานาชาติซางงี (SIN) แห่งประเทศสิงค์โปร์ ขึ้นแท่นสนามบินที่ดีที่สุดในโลกประจำปี 2025 จากการจัดอันดับของ Skytrax World Airport เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2025 นับเป็นครั้งที่ 13 ในป...

Responsive image

CEO Shopify ชี้ AI ไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นทักษะที่ทุกคนต้องมีในองค์กร

บันทึกภายในของ Tobi Lütke ซีอีโอของ Shopify กลายเป็นที่จับตาอย่างมากในวงการเทคโนโลยีและการลงทุน เนื่องจากเขาประกาศชัดว่า “การใช้ AI อย่างมีประสิทธิภาพ” คือความสามารถพื้นฐานที่พนักง...

Responsive image

เปิด 10 อันดับ มหาเศรษฐีโลก 2025 Elon Musk ขึ้นแท่นอันดับหนึ่ง

สำรวจ 10 อันดับมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลกประจำปี 2025 พร้อมเปิดโฉมเศรษฐีไทยผู้มีบทบาทสำคัญบนเวทีโลกได้ในบทความนี้...