ดร. ศุภชัย พานิชภักดิ์ ผู้ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งผู้นำ WTO ระหว่างปี 2002 ถึง 2005 อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของไทย ให้สัมภาษณ์กับ Nikkei เกี่ยวกับประเด็นด้านภาษีตอบโต้ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยระบุว่า สมาชิกอาเซียนมีแนวโน้มที่จะได้รับความเสียหายร้ายแรงจากกำแพงภาษีสหรัฐฯ และการรวมตัวเพื่อสู้กับสงครามการค้าครั้งนี้อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
กลุ่มประเทศในอาเซียน ถือเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากกำแพงภาษีใหม่ของสหรัฐฯ กัมพูชา ถูกเรียกเก็บภาษี 49% เวียดนามถูกเรียกเก็บภาษี 46% ขณะที่ไทยก็โดนเรียกเก็บที่อัตรา 36%
ในตอนนี้กลุ่มประเทศในอาเซียนกำลังมองหาแนวทางแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง ซึ่ง ดร.ศุภชัย มองว่าเป็นวิธีที่ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพมากนัก เนื่องจากอาเซียนเป็นเพียงกลุ่มประะเทศเล็กๆ ที่มีสถานการณ์ และปัญหาเศรษฐกิจที่หลากหลายแตกต่างกันออกไป จึงเป็นเรื่องยากที่จะมีอำนาจต่อรองเจรจากับสหรัฐฯ
ดร.ศุภชัย อ้างว่า ในขณะนี้นายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย พยายามที่จะจัดประชุมระหว่างผู้นำอาเซียน เพื่อหาแนวทางในการตอบสนองต่อภาษีตอบโต้ ซึ่งหากกลุ่มสมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประเทศมีฉันทามติ จะช่วยให้มีอำนาจต่อรองที่แข็งแกร่งมากกว่าการเข้าไปเจรจากับสหรัฐฯ แบบเดี่ยว
การขึ้นภาษีของสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบรุนแรงต่อการค้าโลก และฉุดมูลค่าการค้าลงอย่างมาก ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะ Staglfation หรือภาวะที่ราคาสินค้าสูงขึ้น และความต้องการลดลงอย่างรวดเร็วในเวลาเดียวกัน ตามความเห็นของ ดร.ศุภชัย
อ้างอิง : Nikkei
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด