พาสปอร์ตทรงอำนาจที่สุดในโลก: ญี่ปุ่นขึ้นอันดับ 1 สิงคโปร์ลงไปอยู่อันดับ 2

เว็บไซต์ Henley Passport Index รายงานข้อมูลและการจัดอันดับของ "หนังสือเดินทางสัญชาติ" หรือ "พาสฟอร์ต" (Passport) ต่างๆ ทั่วโลก พบว่าในปีนี้ หนังสือเดินทางจากประเทศญี่ปุ่นขึ้นเป็นหนังสือเดินทางที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก โดยสามารถเข้าได้มากสุด 190 ประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่า แซงขึ้นเป็นอันดับ 1 แทนที่สิงคโปร์ซึ่งหล่นลงไปอยู่อันดับ 2 Photo: [email protected], Flickr

เว็บไซต์ Henley Passport Index รายงานข้อมูลและการจัดอันดับของ "หนังสือเดินทางสัญชาติ" หรือ "พาสฟอร์ต" (Passport) ต่างๆ ทั่วโลก ในปี 2561 (ค.ศ. 2018) โดยวัดจากจำนวนประเทศ ระบุว่าหนังสือเดินทางจากประเทศญี่ปุ่นขึ้นเป็นหนังสือเดินทางที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก โดยสามารถเข้าได้มากสุด 190 ประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่า ซึ่งเป็นผลมาจากประเทศพม่าได้อนุญาตให้ชาวญี่ปุ่นเดินทางมาได้โดยไม่ต้องใช้วีซ่าเมื่อไม่นานมานี้) เบียดประเทศสิงคโปร์ขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ในการสำรวจนี้ได้อย่างฉิวเฉียด

ในขณะเดียวกันสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา ก็ถูกเบียดตกลงมาอยู่อันดับที่ 5 ซึ่งในปีก่อนนั้นยังอยู่อันดับที่ 4 ทำให้สหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา มีจำนวนประเทศที่เดินทางโดยไม่ต้องขอวีซ่าเทียบเท่ากับ  ออสเตรีย, ลัมเซกเบิร์ก, เนเธอร์แลนด์ และ โปรตุเกส อยู่ที่ 186 ประเทศ

โดยข้อมูลดังกล่าวมาจาก International Air Transport Association (IATA), กลุ่มบริษัท Henley & Partners บริษัทที่ดำเนินการด้านการให้คำแนะนำเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย และบริษัทวิจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

เมื่อดู 10 อันดับแรกของพาสปอร์ตทรงอิทธิพลที่สุดในโลก (วัดจากจำนวนประเทศที่เดินทางเข้าไปได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า) จะมีดังนี้

  1. ญี่ปุ่น: 190 ประเทศ
  2. สิงคโปร์: 189 ประเทศ
  3. เยอรมนี, ฝรั่งเศส, เกาหลีใต้: 188 ประเทศ
  4. เดนมาร์ก, ฟินแลนด์, อิตาลี, สวีเดน, สเปน: 187 ประเทศ
  5. นอร์เวย์, สหราชอาณาจักร, ออสเตรีย, ลัมเซกเบิร์ก, เนเธอร์แลนด์, โปรตุเกส, สหรัฐอเมริกา: 186 ประเทศ
  6. เบลเยี่ยม, สวิสเซอร์แลนด์, ไอร์แลนด์, แคนาดา: 185 ประเทศ
  7. ออสเตรเลีย, กรีซ, มอลตา: 183 ประเทศ
  8. นิวซีแลนด์, สาธารณรัฐเช็ก: 182 ประเทศ
  9. ไอซ์แลนด์: 181 ประเทศ
  10. ฮังการี, สโลวีเนีย, มาเลเซีย: 180 ประเทศ

ส่วนประเทศไทยอยู่อันดับที่ 68 รองรับการเดินทางแบบไม่ต้องขอวีซ่าได้อยู่ที่ 77 ประเทศ ซึ่งครองอันดับร่วมกับประเทศเบราลุส และประเทศที่เดินทางแบบไม่ต้องวีซ่าได้น้อยที่สุด คือ ประเทศอิหร่านและอัฟกานิสถาน ซึ่งเดินทางแบบไม่ต้องขอวีซ่าได้เพียง 30 ประเทศเท่านั้น

Christian H. Kälin ประธานกลุ่มบริษัท Henley & Partners ให้ความเห็นในแถลงการณ์ว่า "ผลลัพธ์ที่วิเศษนี้เกิดจากรัฐต่างๆ สามารถบรรลุผลจากการทำงานร่วมกับทั่วโลกเพื่อสร้างโลกการเชื่อมต่อและความร่วมมือกันให้เกิดได้มากขึ้น ซึ่งประเทศจีนและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความคืบหน้านี้ โดยสองประเทศเป็นมีผลงานที่คืบหน้ามากที่สุดเมื่อเทียบกับข้อมูลในปี 2017 อันเป็นผลมาจากความสัมพันธ์อันแข็งแกร่งที่พวกเขาสร้างขึ้นกับประเทศคู่ค้าทั่วโลก"

อ้างอิงข้อมูลจาก CNN Travel และ Channel NewsAsia

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ชางงี สิงคโปร์ ขึ้นแท่นสนามบินดีสุดในโลก 2025 คว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 13 จาก Skytrax

สนามบินนานาชาติซางงี (SIN) แห่งประเทศสิงค์โปร์ ขึ้นแท่นสนามบินที่ดีที่สุดในโลกประจำปี 2025 จากการจัดอันดับของ Skytrax World Airport เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2025 นับเป็นครั้งที่ 13 ในป...

Responsive image

CEO Shopify ชี้ AI ไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นทักษะที่ทุกคนต้องมีในองค์กร

บันทึกภายในของ Tobi Lütke ซีอีโอของ Shopify กลายเป็นที่จับตาอย่างมากในวงการเทคโนโลยีและการลงทุน เนื่องจากเขาประกาศชัดว่า “การใช้ AI อย่างมีประสิทธิภาพ” คือความสามารถพื้นฐานที่พนักง...

Responsive image

เปิด 10 อันดับ มหาเศรษฐีโลก 2025 Elon Musk ขึ้นแท่นอันดับหนึ่ง

สำรวจ 10 อันดับมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลกประจำปี 2025 พร้อมเปิดโฉมเศรษฐีไทยผู้มีบทบาทสำคัญบนเวทีโลกได้ในบทความนี้...