7 ไม้เด็ดเคล็ดวิชาเซลล์ ยอดขายพุ่ง มุ่งเงินล้าน รับปี 2023

‘การขาย’ เป็นการแข่งขันที่เกิดขึ้นในทุกธุรกิจ แต่ใครจะขายได้หรือไม่ได้นั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าคนนั้นมีทักษะ

และเทคนิคในการขายสินค้ามากน้อยเพียงใด สิ่งที่จะทำให้เราเอาชนะคู่แข่งได้นั้นก็คือ “ เทคนิคในการขายของให้ชนะใจลูกค้า และจูงใจลูกค้าให้เข้ามาซื้อสินค้าร้านเรา ” นับเป็นขั้นตอนที่สำคัญสำหรับเซลล์ เพื่อที่จะได้รับเงินและปิดการขายจากลูกค้า ถือเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ยอดขายพุ่ง ไม่ว่าจะเป็นการขายในรูปแบบใดทั้งออฟไลน์หรือออนไลน์ ก็ควรมีเทคนิคในการขายเพื่อตอบโจทย์ลูกค้า 

1. จำไว้ว่า ไม่มีใครอยากจดจำที่ 2

เวลาที่ลูกค้าเลือกซื้อสินค้านั้น ย่อมมีการเปรียบเทียบสินค้าระหว่างเรากับคู่แข่งของเราอยู่แล้ว อย่างน้อยก็ 2 ถึง 3 เจ้า ไม่ว่าจะเป็นในด้านคุณภาพของสินค้า ราคา หรือการบริการ แต่ถ้าสินค้าของเราไม่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ ให้พยายามหาสิ่งที่โดดเด่นมากกว่าคู่แข่งเพื่อครองใจลูกค้าให้นึกถึงเป็นคนแรกให้ได้ เช่น ทำราคาได้ต่ำที่สุด  คุณภาพยอดเยี่ยมที่สุด  หรือแม้กระทั่ง การดูแลลูกค้าได้ดีและสม่ำเสมอที่สุด

2. การตรงต่อเวลา เป็นจุดเริ่มต้นของการรักษาสัญญา

คำสัญญาที่มอบให้แก่ลูกค้า ไม่ว่าจะในรูปแบบเอกสาร หรือสัญญาที่ออกจากปาก ต้องยึดมั่นถือมั่นให้เป็นสำคัญที่สุด เพื่อให้ลูกค้าเชื่อถือว่าบริษัทสามารถรักษาสัญญาได้ ให้เริ่มที่การตรงต่อเวลา ไม่ว่าจะเป็นการนัดหมายเข้าพบ กำหนดจัดส่งเอกสารต่างๆ การส่งมอบสินค้า การดูแลหลังการขาย เป็นสิ่งที่ต้องรักษาและตรงต่อเวลาเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า ว่าเราจะสามารถทำได้อย่างที่รักษาสัญญาได้จริง

3. การขายที่ดีที่สุด คือไม่ต้องขาย

ถ้าเปรียบเทียบการขายสินค้า เหมือนการศึกษาดูใจใครสักคนอยู่ อีกฝ่ายคงไม่ได้มองหาสิ่งที่เราจงใจนำเสนอให้เห็นใช่หรือไม่ เพราะบางครั้งความใส่ใจในเรื่องเล็กน้อย การแสดงออกถึงความจริงใจ ความเป็นกันเอง ความเข้าอกเข้าใจ ก็สามารถเอาชนะใจลูกค้าได้เช่นกัน 

ดังนั้นการขายลูกค้าแต่ละคนจึงไม่จำเป็นต้องมีรูปแบบเดียวกัน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ต้องมีคือ “ การรับฟังปัญหาของลูกค้า ” และพยายาม “ ช่วยเหลือลูกค้าอย่างจริงใจ ” พร้อมตั้งมั่นไว้เสมอว่า ‘เราจะช่วยเหลือลูกค้า’ ไม่ใช่เพียงขายสินค้าอย่างเดียว 

เพราะอะไรที่ช่วยแก้ปัญหาหรือทำให้ชีวิตของลูกค้าดีขึ้นได้ ให้นำออกมานำเสนอ อะไรที่เป็นข้อเสียหรือเกินความจำเป็นของลูกค้า ให้ชี้แจงอย่างตรงไปตรงมา แม้สุดท้ายอาจไม่ได้ปิดการขาย แต่ก็มีโอกาสที่ลูกค้าจะบอกต่อหรือแนะนำลูกค้าคนอื่นเข้ามาได้เช่นกัน

4. บอกก่อนคือการหวังดี บอกทีหลังคือแก้ตัว

อาจเคยได้ยินคำว่า “ทะเลาะกันให้เสร็จก่อน ค่อยลงมือทำ” กันมาบ้าง ซึ่งประโยคนี้ใช้ได้กับทุกๆเรื่องรวมถึงงานขาย ที่แม้จริงๆ แล้วการบอกก่อนลูกค้าอาจไม่ตัดสินใจซื้อ แต่หากลูกค้ามาทราบภายหลังอาจส่งผลเสียมากกว่า ดังนั้น การบอกข้อมูลให้ครบถ้วน แม้แต่ข้อบกพร่องของสินค้าก็ตามจะช่วยให้ลูกค้าเกิดความคาดหวังที่ตรงกับความเป็นจริงและตระหนักถึงปัญหาล่วงหน้า ปัญหาใหญ่ๆ อาจกลายเป็นเรื่องเล็กลงไปเลยก็ได้หากลูกค้าทราบว่าจะเกิดอะไรขึ้น ลดปัญหาระยะยาวในภายหลังและจะได้ลูกค้าประจำที่อยู่กับเราไปนานๆ อีกด้วย

5. รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง

โดยปกติแล้วเซลล์ทุกคนต้องรู้จักสินค้าที่ตัวเองจะขายได้ดีที่สุดอยู่แล้ว แต่ที่สำคัญคือการรู้จักลูกค้าที่เรากำลังจะเข้าไปเสนอขาย การรู้จักสินค้าและมีข้อมูลครบถ้วนทั้งข้อดีและข้อเสีย การรู้จักลูกค้าเป็นอย่างดี จะเรียกความเชื่อมั่นจากลูกค้าได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญคือประวัติการขายที่เราเคยเข้ามานำเสนอในครั้งก่อนๆ ว่าลูกค้านั้นชอบ หรือ ไม่ชอบอะไร ต้องการหรือไม่ต้องการอะไร จะเป็นข้อมูลชั้นดีที่ทำให้เซลล์ได้เตรียมตัวและข้อมูลเข้าไปนำเสนอสินค้าได้อย่างครบถ้วนและไม่พลาดที่จะปิดโอกาสในการขาย

6. ข้อมูลลูกค้า คือทรัพย์สินอันมีค่าที่สุด

65% ของความล้มเหลวด้านการขาย คือเกิดจากการไม่ส่งต่อข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ เมื่อเซลล์ลาออกหรือโยกย้ายตำแหน่งแล้วไม่มีการจดบันทึกและจัดเก็บข้อมูลลูกค้าอย่างเป็นระบบ ไม่อัพเดทข้อมูล พลาดข้อมูลสำคัญของลูกค้า ล้วนแล้วแต่เป็นทรัพย์สินอันมีค่าที่สุด ดังนั้นจึงต้องจำไว้ว่าข้อมูลลูกค้าที่เกิดขึ้นในทุกๆกระบวนการ มีต้นทุนทั้งสิ้นไม่ว่าจะขายได้หรือไม่ได้ก็ตามก็นับเป็นต้นทุนด้านเวลา ค่าเดินทาง หากเราไม่เก็บข้อมูลลูกค้าย่อมเกิดเป็นต้นทุนที่สูญเปล่าได้เช่นกัน อาจจะทำให้ยอดการขายไม่เติบโต

7. ต้นทุนในการหาลูกค้าใหม่ สูงกว่าการรักษาลูกค้าเก่า ถึง 5 เท่า

การเป็นเซลล์ไม่จำเป็นต้องวิ่งหาลูกค้าใหม่ตลอดเวลา เพราะยอดขายจากลูกค้าเดิมหรือลูกค้าบอกต่อ มักจะมาง่ายกว่าการไปหาลูกค้าใหม่ถึง 5 เท่า แต่การที่จะทำให้ลูกค้าซื้อซ้ำหรือบอกต่อได้นั้นต้องสร้างความประทับใจในการใช้สินค้า และการบริการที่ดีและสม่ำเสมอ สามารถจัดการแก้ไขปัญหาให้ลูกค้า และมีการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเครื่องมือที่จะมาช่วยตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีคือระบบ CRM นั่นเอง

Jubili by BUILK เป็นระบบบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า (Customer Relationship Management หรือ CRM) ร่วมกับ ระบบบริหารงานขาย (SaleForce Automation หรือ SFA) โดยเฉพาะระบบ CRM สำหรับธุกิจ B2B ที่มีทีมเซลล์ และมีกลุ่มลูกค้าที่เป็นธุรกิจหรือองค์กร ที่ต้องการการบันทึกและติดตามกิจกรรมการขายอย่างสม่ำเสมอ เป็น CRM ติดตามการขายอย่างมืออาชีพ ที่จะช่วยให้ทีมขายของคุณ ไม่ปล่อยให้ลูกค้าหลุดมือ ส่งต่อข้อมูลกันได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยระบบจัดเก็บข้อมูลในระบบ Cloud 100% แจ้งเตือนทุกช่วงเวลาสำคัญ และยังสามารถออกใบเสนอสินค้าได้ทันทีผ่านระบบแสดงรายงานยอดขายแบบ Real Time และตรวจสอบเอกสารย้อนหลังได้ สามารถติดต่อขอคำปรึกษาและทดลองใช้ระบบได้ฟรี ที่ www.builk.com/jubili หรือโทร 02-026-6857


บทความนี้เป็น Advertorial

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

รวมสถานีชาร์จ EV ของ PEA บนเส้นทางหลักทั่วประเทศ

เทศกาลสงกรานต์มาถึงแล้ว หลายคนคงเตรียมออกเดินทางทั้งกลับบ้าน แต่สำหรับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) อาจกังวลเรื่องจุดชาร์จระหว่างทาง Techsauce จึงรวบรวมจุดให้บริการสถานีชาร์จ EV ทั่วประเท...

Responsive image

วิจัยพบ AI ไม่ได้คิดอย่างที่พูด แม้จะโชว์วิธีคิดยาวเหยียด แต่ซ่อนความคิดที่แท้จริงไว้ไม่บอกใคร

ตอนนี้มี AI ประเภทใหม่ที่เรียกว่าโมเดลจำลองการให้เหตุผล (SR Model) ซึ่งถูกสร้างมาให้โชว์วิธีคิดทีละขั้นตอน เวลาเราถามคำถามยากๆ AI จะอธิบายออกมาเป็นขั้นเป็นตอนว่าคิดด้วยวิธีไหน ถึงไ...

Responsive image

เปิดตัว Llama 4 โมเดล AI ที่ฉลาดที่สุดของ Meta ทำอะไรได้บ้าง แต่ละโมเดลต่างกันอย่างไร ?

Meta ได้เปิด Llama 4 ซึ่งเป็น AI เวอร์ชันอัปเดตล่าสุดอย่างเป็นทางการ โดยครั้งนี้มีโมเดลใหม่ทั้งหมด 3 ตัว ได้แก่ Llama 4 Scout, Llama 4 Maverick และ Llama 4 Behemoth โดยทาง Meta เป...