Grab บุกตลาดญี่ปุ่น เตรียมเปิดตัว 18 พ.ย. นี้ ในโตเกียวและเมืองใหญ่

แม้ Grab จะเติบโตมากในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ก็เคยมีคนบอกว่าน่าจะเป็นการยากที่จะข้ามไปเติบโตในภูมิภาคอื่น โดยเฉพาะประเทศที่มีพฤติกรรมการโดยสารที่มีลักษณะเฉพาะตัวมากๆ และขึ้นชื่อว่าเป็นตลาดที่เจาะยากมากที่สุดแห่งหนึ่งอย่างญี่ปุ่น แต่เมื่อ Softbank มาลงทุนก็ทำให้เห็นว่าก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้เช่นกัน และในที่สุดเวลานั้นก็มาถึงเมื่อ Grab จับมือกับผู้ให้บริการ Taxi ในญี่ปุ่นชื่อ JapanTaxi ที่มีรถกว่า 70,000 คัน เปิดให้บริการเรียกรถได้ในจุดท่องเที่ยวสำคัญ โดยเริ่มเปิดตัวในวันที่ 18 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้

โดยทั้ง 5 เมืองประกอบด้วย โตเกียว เกียวโต ซัปโปโล นาโกย่า และ โอกินาว่า ซึ่งผู้ให้บริการ Taxi ท้องถิ่นต้องแย่งกันดึงลูกค้าต่างชาติกับ Grab ในขณะที่การโดยสารประเภทอื่นอาทิ อย่างรถไฟฟ้าก็มีความสะดวกมากสำหรับคนญี่ปุ่นอยู่แล้วโดยเฉพาะในโตเกียว อย่างไรก็ตาม Grab ไม่ใช่ผู้เล่นรายแรกของสายนี้ที่กระโดดเข้าตลาดญี่ปุ่น เพราะก่อนหน้านี้ทั้ง Uber และ Didi เอง ซึ่งร่วมทุนกับ Softbank ก็เปิดให้บริการในญี่ปุ่นแล้วเช่นกัน

การเปิดให้บริการนี้ทำให้นักเดินทางในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่กำลังเดินทางไปญี่ปุ่นนั้นสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยนักท่องเที่ยวสิงคโปร์มีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่า 8.2%   ถือเป็นจำนวน 437,300 คน ในปี 2018 และมาเลเซียเพิ่มขึ้นกว่า 6.5% ถือเป็นจำนวน 468,300 คน

ที่มา Nikkei Asian Review  

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ทำความรู้จักโครงการ Low Carbon City หนุนผู้ประกอบการเปลี่ยนผ่านสู่ 'อุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำ'

สรุปจากงานสัมมนา CEO Forum : Industrial Decarbonization under Thailand's Low Carbon City Program ที่มีทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และ World Bank มาเผยแนวทางสนับสนุนให้ลดการปล่อยคาร์บอนในภา...

Responsive image

อว. ก้าวล้ำ! เปิดตัว AI ตรวจสอบหลักสูตรมหาวิทยาลัย ยกระดับมาตรฐาน รวดเร็ว แม่นยำ

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กำลังก้าวสู่มิติใหม่ของการประกันคุณภาพการศึกษา ประกาศนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาช่วยในกระบวนการตรวจสอบมาตรฐานหลักสูต...

Responsive image

ศูนย์วิจัยกสิกรชี้ ส่งออกไทยอาจเสียหาย 4 แสนล้านบาท จากภาษีตอบโต้ 37%

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ออกบทวิเคราะห์ประเมินถึงสถานการณ์ที่สหรัฐญ ขึ้นภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) กับไทยในอัตรา 37% ซึ่งถือว่าสูงกว่าที่เคยประเมินไว้ที่ 25% ถือเป็นความเสี่ยงต่อเศร...